นักธุรกิจจีนร่วมสหกรณ์แปรรูปส่งออกตราดส่งเสริมปลูกกล้วยไข่

ตราด- นักธุรกิจจีนร่วมสหกรณ์แปรรูปส่งออก จ.ตราด สนับสนุนส่งเสริมปลูกกล้วยไข่ พร้อมรับซื้อไม่อั้น ระบุส่งออกสัปดาห์ 60 ตู้ คอนเทนเนอร์ ด้าน ธ.ก.ส.พร้อมสนับสนุนเงินทุน

วันนี้ (19 ม.ค. ) ที่อาคารห้องเย็น ศูนย์รวบรวมผลผลิตการเกษตร อ.เขาสมิง จ.ตราด สหกรณ์การเกษตรแปรรูปเพื่อการส่งออก จ.ตราด ร่วมหอการค้า จ.ตราด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาแสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด และ บริษัท ไทฮง จำกัด ผู้นำเข้าผลไม้จาก จ.ตราด และจันทบุรีเพื่อส่งไปยังประเทศจีน ได้ร่วมกันประชุมชี้แจงให้เกษตรกรชาว อ.เขาสมิง จ.ตราด เพื่อเชิญชวนให้เข้าร่วมโครงการปลูกกล้วยไข่ เพื่อการส่งออก หลังจากผู้ส่งออกมีความต้องการกล้วยไข่เพิ่มมากขึ้น โดยไม่จำกัดจำนวนส่งออก

นายสุมิตร เขียวขจี ประธานหอการค้า จ.ตราด กล่าวว่า พื้นที่ทำการเกษตรในจังหวัดตราด โดยเฉพาะพื้นที่ไม้ผล ซึ่งมีเกษตรกรจำนวนมาก ประสบกับปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำเป็นประจำทุกปี เนื่องจากผลไม้เวลาที่เก็บเกี่ยวเข้าตลาดในเวลาที่ใกล้เคียงกัน ผู้บริโภคก็ไม่ทัน ทำให้ผลผลิตที่เหลือต้นทาง จนเป็นเหตุให้ราคาตกต่ำ และก็เป็นเช่นนี้ทุกวัน และยังไม่มีเทคโนโลยีการผลิตใดๆ ที่มาทำให้ผลไม้กระจายตัวได้อย่างชัดเจน

วิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว สามารถแก้ไขโดยการทำการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ให้หลากหลาย แบบเกษตรกรรมผสมผสาน ซึ่งสามารถทำได้เป็นอย่างดีในสวนผลไม้ โดยนำกล้วยไข่มาปลูกแซมระหว่างต้นผลไม้ ซึ่งแต่ละสวนจะมีพื้นที่ว่างและมีระบบน้ำอยู่แล้ว เนื่องจากกล้วยไข่ไม่ชอบลมหนาว หรือลมว่าวนั่นเอง เมื่อนำมาปลูกระหว่างต้นไม้ผล จะเป็นเครื่องกำบังลมให้กับกล้วยไข่ได้ และจะได้ผลผลิตดี สามารถออกผลหรือบังคับให้ออกสู่ตลาดในช่วงที่มีราคาแพงได้ และตลาดเมืองจีนยังมีความต้องการอยู่มาก

ด้านนาย Lam Gho Un เจ้าของบริษัท ไทฮง จำกัด (ประเทศไทย) ที่เป็นเอกชนนำเข้าผลไม้สู่ประเทศจีน เปิดเผยว่า ความต้องการกล้วยไข่ของประเทศจีนมีจำนวนไม่จำกัด แต่การผลิตไม่เพียงพอ ซึ่งปัจจุบันชาวจีนนิยมบริโภคกล้วยไข่จากประเทศไทย ซึ่งทางบริษัทได้เข้ามาร่วมมือกับหอการค้า จ.ตราด และสหกรณ์การเกษตรเพื่อการแปรรูปและส่งออก จ.ตราด เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรมาปลูก

ขอให้เกษตรกรมั่นใจว่า กล้วยไข่จากไทยจะยังมีความต้องการอย่างไม่จำกัด ดังนั้น เกษตรกรไม่ต้องกังวลว่า ในระยะเวลาอันใกล้จะหยุดรับซื้อกล้วยไข่

“ทุกวันนี้มีการส่งออกไปยังประเทศจีนสัปดาห์ละ 50-60 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยทางบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับหอการค้า จ.ตราด และสหกรณ์ฯ ในการช่วยเหลือและดูแลในเรื่องการผลิตด้วย” นาย Lam Gho Un กล่าว

ขณะที่ นายมานพ ทองศรีสมบูรณ์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.แสนตุ้ง) กล่าวว่า การที่ ธกส.ตราดและแสนตุ้งเข้ามาร่วมกับโครงการนี้เพราะเห็นว่าเกษตรกรจะได้ประโยชน์จากการลงทุนปลูกกล้วยไข่โดยใช้เงินทุนไม่มาก แต่มีรายได้ทุกสัปดาห์ ๆ ละ 5-,6000 บาท และจะได้ไปตลอดระยะเวลา 2-3 ปี ต่อการลงทุน 1 ครั้ง

ที่ผ่านมา เกษตรกรตั้งแต่ลงทุนปลูกพืชหรือผลไม้ที่มีปัญหาด้านผลผลิตล้นตลาด ซึ่งเกษตรกรไม่รู้จักการบริหารจัดการพื้นที่การเกษตร ดังนั้น หากเกษตรกรหันมาปลูกกล้วยไข่เพื่อการส่งออกก็จะสามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องรายได้ และผลผลิตล้นความต้องการได้ระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ตราดและแสนตุ้งพร้อมจะให้การสนับสนุน

นายวุฒิพงษ์ รัตนมนต์ ประธานสหกรณ์ กล่าวว่า การปลูกกล้วยไข่ของ จ.ตราด และ จ.จันทบุรี ในปัจจุบันนั้นเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมากกว่าที่กำแพงเพชร และมีคุณภาพ โดยปัจจุบันตลาดในประเทศจีนมีความต้องการสูงมาก และรับซื้อไม่จำกัดจำนวน โดยบริษัทนำเข้าผลไม้จากจีนได้เข้ามารับซื้อแบบไม่จำกัดจำนวนและให้ราคา 50-60 บาท/กิโลกรัม และปัจจุบันมีการส่งออกไปจีนสัปดาห์ละ 60 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งกล้วยไข่ของเกษตรกร จะสร้างรายได้สัปดาห์ละ 5-6,000 บาท เกษตรกรจะมีรายได้แน่นอนจากการลงทุนปลูกกล้วยไข่แซมอยู่ในสวนผลไม้ หรือสวนปาล์ม จะทำให้ไม่เสียพื้นที่ปลูกพืชหลักด้วย