นครปฐม - ควันหลงหลังวันเด็ก สังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก ผงะเจอแก๊งเด็กสาว ม.ต้น 7 คน รวมตัวเปลื้องผ้าเผยบรา และ กกน.ชั้นใน ถ่ายภาพหมู่ท่าทางสุดเสียว ท่ามกลางกระแสวิจารณ์พฤติกรรมสุดแย่อย่างหนัก หลังเคยปรากกฎสาว ม.ต้นเต้นโคโยตี้กลางห้องเรียนแต่ยังไม่สามารถหาต้นตอได้ว่าเป็นที่แห่งใด
วันนี้ (16 ม.ค.) เวลา 16.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกระแสการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก อีกครั้ง เมื่อปรากฏว่า นักเรียนสาวระดับชั้นมัธยมต้นจำนวน 7 คนได้รวมตัวกันถ่ายภาพวาบหวิว
โดย 4 ใน 7 คนได้ถอดเสื้อนักเรียนออกเหลือเพียงยกทรงเผยเนินอกของสาวแรกแย้ม ส่วน 1 ราย สวมเสื้อนักเรียนคอซอง แต่มีการนั่งถ่างขาเผยให้เห็นกางเกงชั้นในสีแดงอร้าอร่าม และมีสาวคู่หนึ่งคนหนึ่งได้ถอดเสื้อออกเหลือเพียงเสื้อชั้นในสีดำทำท่ากอดรัดกับสาวอีก 1 คนในภาพ
ซึ่งหลังจากภาพดังกล่าวปรากฏในเฟซบุ๊กได้มีการส่งภาพแชร์ส่งต่อกันในวงสังคมอย่างรวดเร็ว
จากการตรวจสอบภาพดังกล่าวได้ปรากฏขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ได้มีการแชร์ภาพส่งต่อกันถึงกว่า 5 พันครั้งและเข้ามาคอมเม้นท์ภาพดังกล่าวกว่า 4 หมื่นครั้ง และมีการส่งต่อขยายตัวอย่างรวมเร็ว
โดยส่วนใหญ่จะมีการออกมาวิจารณ์ของกลุ่มวับรุ่นชายหญิงถึงความสลดกับภาพที่ปรากฏขึ้นและสงสารพ่อแม่ผู้ปกครอง เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่เด็กทั้ง 7 คน ต่างยิ้มกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่สะทกสะท้านกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งภาพดังกล่าวได้ปรากฏหลังจากวันเด็กแห่งชาติได้เพียงวันเดียวเท่านั้น
และจากการดูในภาพนั้น พบว่า ในเสื้อนักเรียนรายหนึ่งสวมเสื้อที่มีการปักอักษรของโรงเรียนไว้ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นโรงเรียนแห่งใด ซึ่งจุดที่สังเกต คือ นักเรียนสาวคนหนึ่งที่ไม่ได้ถอดเสื้อผ้า แต่สวมชุดกีฬามานั่งร่วมในการถ่ายภาพครั้งนี้น่าจะเป็นจุดที่ตามหาได้ว่าชุดพละของนักเรียนหญิงสวมเสื้อสีเหลืองปกคอ และขลิบแขนสีดำ หรือน้ำตาลเข้มจะเป็นจากโรงเรียนและจังหวัดใด และสถานที่ถ่ายภาพน่าจะเป็นห้องในบ้านพัก หรือไม่ก็หอพัก เนื่องจากปรากฏเตียงเหล็กในภาพ ซึ่งไม่น่าจะมีในห้องเรียน แต่หากจะเป็นก็อาจจะเป็นห้องพยาบาล
สำหรับภาพดังกล่าว ซึ่งปรากฏส่งต่อกันในสังคมเฟซบุ๊กนี้ เป็นอีกครั้งหนึ่งหลังจากเมื่อต้นปี 55 ได้ปรากฏภาพคลิปของนักเรียนสาวของนักเรียนสาวชั้น ม.ต้น ออกไปยืนเต้นบนเก้าอี้และเต้นด้วยท่ายั่วยวนก่อนถอดเสื้อและกระโปรงออกเผยให้เห็นยกทรง โดยมีเพื่อนๆ ชายหญิงยกโทรศัพท์มือถือมาถ่ายภาพ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักและมีสื่อบางแห่งระบุว่าเป็นจังหวัดนครปฐม แต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ใช่แต่จนถึงวันนี้กระมทรวงศึกษาธิการและกระทรวงไอซีที ก็ยังไม่ได้มีการติดตามผลให้เกิดผลในการแก้ปัญหาอย่างชัดเจน และปล่อยให้เงียบหายไป
โดยหลายคนบอกว่า สวนทางกับคำขวัญวันเด็กที่มีในปีนี้ คือ สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี แต่ตอนนี้เยาวชนไม่ได้รักษาความเป็นไทย และนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในทางที่ผิด ซึ่งหลายฝ่ายต้องออกมาแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังไม่เช่นนั้นพฤติกรรมเช่นนี้จะปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ