ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “สุวัจน์” ชี้ “รธน.” เป็นเข็มทิศประเทศชาติ การแก้ไข ปชช.ต้องมีส่วนร่วม และได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย เผย “นพ.วรรณรัตน์” รมว.อุตสาหกรรม ป่วยจริง ร่างกายไม่พร้อมต้องปรับให้คนมีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงานแทน ระบุ หลัง พ.ค.บ้านเลขที่ 111 หลุดพ้นตัดสิทธิ์ เป็นโอกาสดีของประเทศ นักการเมืองรุ่นใหญ่จะกลับเข้ามาช่วยประเทศชาติอีกครั้ง
วันนี้ (12 ม.ค.) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนา(ชพน.) กล่าวที่ จ.นครราชสีมา ภายหลังเป็นประธานมอบของขวัญวันเด็กแห่งชาติ และวันครู ที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ขึ้นอยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ เพราะรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นเข็มทิศนำทางในเรื่องความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ เพราะเป็นพื้นฐานในทุกๆ เรื่อง พื้นที่ฐานของอำนาจ พื้นฐานของกติกาของสังคม และพื้นฐานของระบบประชาธิปไตย ฉะนั้นถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ
ทั้งนี้ การแก้ไขก็ควรที่จะแก้ไขให้มีความเหมาะสมมีความสอดคล้องให้เข้ากับสังคม เพื่อให้ทุกส่วนนั้นยอมรับ และเพื่อจะนำไปสร้างประเทศไทยให้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนคิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเมื่อนำมาใช้ในระยะหนึ่ง แล้วอะไรที่ก่อให้เกิดอุปสรรคก็ต้องนำมาแก้ไข เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามจะต้องอยู่บนพื้นที่ฐานที่มีการยอมรับ และการมีส่วนร่วมของประชาชน
ส่วนกรณีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น ตนเชื่อว่า ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นกันหมดแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่มีอยู่ในส่วนของรัฐธรรมนูญ แต่ทุกคนก็คิดว่าสถาบันเป็นเรื่องที่สูงสุดอยู่ในหัวใจของคนไทยทุกคน ดังนั้น ทุกคนก็ควรที่จะสร้างจิตสำนึกจงรักภักดีต่อสถาบันของชาติ
สำหรับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่ง นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา จะทิ้งเก้าอี้เนื่องจากป่วย นั้น ตนคิดว่า การปรับคณะรัฐมนตรีของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะของหัวหน้าคณะรัฐมนตรี จะต้องมีการพิจารณาความเหมาะสม ว่า เมื่อบริหารประเทศไปสักระยะหนึ่ง เห็นว่า จะต้องมีการเสริมทีมหรือมีการปรับปรุงเพื่อให้ทันท่วงทีต่อการแก้ไขปัญหาต่างๆ นั้น นายกรัฐมนตรี ก็สามารถที่จะทำได้ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีการตั้งรัฐบาลได้ซักระยะก็จะต้องมีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีต้องตัดสินใจ
ส่วนกรณี นพ.วรรณรัตน์ ที่ข่าวออกมาว่า ไม่สบาย ตนเชื่อว่า สาเหตุน่าจะมาจากการที่ นพ.วรรณรัตน์ ได้ทำงานหนักมาโดยตลอด ตั้งแต่ที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ 3 ปี และมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาอุทกภัยทำให้ต้องทำงานหนักมากขึ้นทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายอ่อนแอทรุดหนัก ซึ่งสาเหตุนั้นจากการสอบถามแพทย์ทราบว่าเป็นโรคไวรัสที่มากับความเครียด และพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งอาการดังกล่าวจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาตัว ดังนั้นหาก นพ.วรรณรัตน์ ไม่สามารถปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพได้ ทางพรรคชาติพัฒนาก็จะต้องสรรหาบุคคลที่จะมาสานงานต่อ
การตัดสินใจให้ใครมารับตำแหน่งรัฐมนตรีแทนในโควตาของพรรคชาติพัฒนานั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า คิดว่า จะต้องเป็นการตัดสินใจของ นพ.วรรณรัตน์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ที่จะเลือกใครขึ้นมาแทน เมื่อนายกรัฐมนตรีจะมีการปรับ ครม.และสภาพร่างกาย นพ.วรรณรัตน์ ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็จะต้องเลือกคนมาปฏิบัติหน้าที่ต่อและจะต้องเป็นคนที่มีความสามารถ คนที่ได้การยอมรับ มีความรู้ความสามารถ และมีภาพพจน์ที่ดี เพื่อจะเข้ามาช่วยนายกรัฐมนตรีมาบริหารประเทศเนื่องจากงานอุตสาหกรรมนั้นเป็นงานเศรษฐกิจที่สำคัญ
กรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงสิ้นเดือน พ.ค.นี้ เปิดกว้างให้เข้ามารับใช้บ้านเมืองได้ตามปกติ นั้น คิดว่า เป็นโอกาสที่ดีของประเทศ เนื่องจากหลังวันที่ 31 พ.ค.นี้ ไปแล้ว นักการเมืองอาวุโส อดีตรัฐมนตรีที่มีประสบการณ์จะได้รับอิสระพ้นจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองในบ้านเลขที่ 111 และ เป็นสัญญาณทางการเมืองที่ดีที่จะได้ต้อนรับการกลับมานักการเมืองรุ่นใหญ่ ที่จะได้กลับเข้ามาสู่การทำงานทางการเมือง โดยเฉพาะทุกวันนี้ที่ประเทศชาติกำลังพบวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งการเปิดโอกาสให้กับคนที่มีความรู้ความสามารถที่เคยช่วยประเทศชาติกลับมาช่วยอีกครั้ง ตนเชื่อว่า จะทำให้การทำงานรวดเร็วและสามารถเรียกใจของประชาชนได้อย่างแน่นอน
