xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ปู แนะเยาวชนไทยรักษาเอกลักษณ์ สืบสานเสน่ห์ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะเด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศ จำนวน 733 คน เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี พร้อมมอบโล่รางวัลและประกาศเกียรติคุณ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
“นายกฯ นกแก้ว” ขอเยาวชนไทย ใช้วิจารณญาณท่องโลกอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นประโยชน์ เป็นองค์ความรู้ให้ตัวเองและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ พร้อมฝากรักษาเอกลักษณ์ ศิลปวัฒนธรรม สืบสานเสน่ห์ไทยยั่งยืน

ที่ทำเนียบรัฐบาล เช้านี้ (10 ม.ค.) นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะเด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศจำนวน 733 คนเข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมอบโล่รางวัลและประกาศเกียรติคุณ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีโอกาสมาแสดงความยินดีแก่เยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ และเยาวชนเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ตนเองแค่เพียงความภูมิใจ แต่ความภูมิใจนี้พ่อแม่ คุณครูที่อบรมเลี้ยงดูประสิทธิ์ประสาทวิชาต่างๆ คงจะภูมิใจอย่างยิ่ง และประเทศชาติจะยิ่งภูมิใจมากขึ้นถ้าเห็นเยาวชนไทยมีคุณภาพและมีชื่อเสียงและนำความเจริญมาสู่ประเทศ นี่คือเป้าหมายสูงสุดที่รัฐบาลอยากเห็น พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าตนเองเห็นความสำคัญของการศึกษาและน้องๆ เยาวชนเป็นอย่างมาก เพราะการเรียนการสอนถ้าเราเริ่มต้นที่ดีจะทำให้เยาวชนของเราสามารถเติบโตและสร้างชื่อเสียงในระยะยาวได้

สำหรับวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ ได้มอบคำขวัญไว้ว่า “สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญหา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี” ซึ่งมีความหาย 4 ด้าน คือ ด้านแรกความสามัคคีคือการให้ความสำคัญที่จะทำอย่างไรให้มีความร่วมมือร่วมใจ มีน้ำใจ ซึ่งน้องๆ ที่ได้รับโล่คุณงามความดีนั้นไม่ได้เก่งด้านเรียนด้านเดียว แต่มีความรู้รอบด้าน มีน้ำใจ ประพฤติดี นี่คือคำว่าสามัคคี ต้องเป็นที่รักของเพื่อนฝูง พ่อ แม่ และเป็นที่รักษาครูบาอาจารย์ และเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเองและความสามัคคีนี้จะทำให้เกิดความขยันและกำลังใจในภาพรวมอย่างมาก

ส่วนข้อ 2 ความรู้คู่ปัญญา คือ การเรียนที่ได้ประสิทธิประสาทวิชาการเรียน ที่สำคัญต้องรู้สองด้านไม่ว่าจะเป็นการเรียนโดยตรงและความรู้รอบตัว อยากให้เยาวชนเรียนรู้ทุกอย่างรอบทิศ เพราะวันนี้โลกมีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนไปมาก ดังนั้น องค์ความรู้ที่จะหาได้ต้องหาทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน แต่การเรียนรู้อย่างเดียวจะไม่เกิดปัญญาถ้าไม่เข้าใจไม่ได้รู้อย่างลึกซึ้ง หรือไม่ได้รู้จากการลงมือปฏิบัติจริง

ส่วนข้อ 3 คือ คงรักษาความเป็นไทย รัฐบาลมองว่าวันนี้ศิลปวัฒนธรรมต่างๆนานาประเทศเข้ามามีอิทธิพลในไทยมาก ขณะเดียวกันไทยมีเอกลักษณ์และเสน่ห์ความเป็นไทย อยากฝากน้องยาวชน รุ่นใหม่ขอให้คงรักษาสืบสานวัฒนธรรมไทย ความเป็นไปไทยและศิลปวัฒนธรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดความภูมิใจ วันนี้เราพูดได้ว่าเราภูมิใจที่เราเป็นคนไทยและภูมิใจที่เมืองไทยมีสิ่งที่ดี มีการศึกษาดีและที่สำคัญมีทรัพยากรต่างๆ ที่ดี ดังนั้นเราอยากเห็นการคงรักษาความเป็นไทยและเอกลักษณ์ตรงนี้ไว้

ส่วนข้อสุดท้าย คำว่าใส่ใจเทคโนโลยี วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเยอที่ใช้ความว่าใส่ใจ เพราะวันนี้ไม่จำเป็นต้องลงไปปฏิบัติ แต่ขอห้ารู้ว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จะเข้ามาเกี่ยวเนื่องกับชีวิตประจำวันอย่างไร และต้องเลือกใช้ในสิ่งทีดี เพราะบางครั้งการเรียนรู้เทคโนโลยี การท่องอินเตอร์เน็ตมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งน้องๆ เยาวชนจะต้องใช้วิจารณญาณในการเลือกใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์และเป็นองค์ความรู้ของตัวเอง การไปด้านหนึ่งด้านใดมากเกินไปจะไม่ทำให้เกิดความสมดุล นี่คือที่มาของคำขวัญวันเด็กแห่งชาติที่ได้ให้ไว้แลละอยากฝากไว้กับเยาวชน

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า รางวัลแห่งความภูมิใจของเยาวชนจากทั่วประเทศที่มาถือเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าเป็นผู้ที่มีคุณงามความดี เรียนรู้ดี รู้จักหน้าที่ ขยันหมั่นเพียร หาความรู้ใส่ตัวเอง ดังนั้นอยากให้รักษาคุณงามความดีนี้ต่อไป ทั้งนี้อย่ามองข้ามเพื่อนๆ หรืออย่ามองข้ามคนอื่นที่ไม่ได้รางวัล หน้าที่เรายิ่งเรารู้ เราถ่ายทอดมากจะยิ่งเรียนรู้ได้มาก ถือโอกาสนี้ฝากเยาวชนและขอขอบคุณคุณครูทุกท่านที่สร่งบุคลากรดีๆ ของประทศรวมทั้งพ่อ แม่ที่ส่งเสริมให้เยาวชนได้รับการศึกษาจนมาเป็นเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาให้ประเทศ ซึ่งตนเองมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของเยาวชนไทยและเชื่อว่าทุกคนทำได้และขอให้นำความภาคภูมิใจนี้กลับมาให้ประเทศไทยตลอดไป



“ปู” แจงความหมายแฝง คำขวัญวันเด็ก
“ปู” แจงความหมายแฝง คำขวัญวันเด็ก
นายกฯ แจงความหมายแฝงในคำขวัญวันเด็ก ปี 55 ทั้ง 4 ด้าน ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการศึกษาและพัฒนาเยาวชน ขณะที่ ตัวแทนเยาวชน ฝากรัฐบาลต่อยอดการสร้างเวทีและกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กแสดงความเห็นเชื่อจะทำให้เด็กมีวุฒิภาวะสูงขึ้น เพราะคุณภาพเยาวชนจะเป็นตัวชี้วัดประเทศไทยในสังคมโลก ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วย นางบุญรื่น ศรีธเรศ นายสมพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. และผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. ได้นำเด็กและเยาวชนดีเด่นเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ จำนวน 720 คน ซึ่งคัดเลือกจาก 1.เด็กและเยาวชนที่มีความประพฤติดี มีคุณธรรม จริยธรรม ชอบช่วยเหลือสังคมหรืออุทิศตนเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น ช่วยเหลือบิดามารดา หรือผู้ปกครองประกอบอาชีพสุจริต จำนวน 491 คน และ 2.เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงใน 5 ด้าน คือ วิชาการ,ศิลปะและดนตรี,คุณธรรมและจริยธรรม,กีฬาและนันทนาการ และทักษะฝีมืออาชีพ จำนวน 229 คน เข้ารับโล่รางวัลจาก รมว.ศึกษาธิการ และเข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2555 นายกฯ กล่าวให้โอวาทกับเด็กและเยาวชนฯ มีใจความสำคัญตอนหนึ่ง ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการศึกษาและการพัฒนาเยาวชนอย่างมากถ้าการเรียนการสอนเริ่มต้นด้วยดี ก็จะทำให้เยาวชนเติบโตสร้างชื่อเสียงให้ประเทศระยะยาวได้ ส่วนคำขวัญในวันเด็ก “สามัคคี มีความรู้คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี” นั้น จริง ๆ แล้วแฝงความหมายสำคัญ 4 ด้าน ๆ แรกคือ ความสามัคคี ซึ่งตนให้ความสำคัญอย่างมาก อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจความมีน้ำใจ การพัฒนาเยาวชนไม่ได้เน้นเก่งแต่วิชาการแต่ต้องสร้างเยาวชนที่มีน้ำใจ คุณธรรม จริยธรรม รู้รักสามัคคีเข้าใจในบทบาทหน้าที่ตนเอง ด้านที่ 2 ความรู้คู่ปัญญา การพัฒนาเยาวชนต้องให้ความรู้ครบ 2 ด้าน คือ ด้านแรกในตำราเรียน และความรู้รอบตัว จะต้องสร้างโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้รอบทิศเพราะทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก อย่างไรก็ตาม จะต้องเป็นความรู้ที่คู่กับปัญญาด้วยคือรู้เข้าใจลึกซึ้งจากการลงมือปฏิบัติจริง ด้านที่ 3 คงรักษาความเป็นไทย ทุกวันนี้ศิลปวัฒนธรรมต่างประเทศเข้ามามีอิทธิพลอย่างมาก ต้องฝากเยาวชนให้คงรักษาศิลปวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ของไทย เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ด้านที่ 4 ใส่ใจเทคโนโลยี ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตประจำวัน แต่ไม่จำเป็นที่เราต้องลงมือปฏิบัติแต่เยาวชนควรจะเข้าใจว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างไร เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันอย่างไร และมีวิจารณญาณในการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ ขณะที่ นายภคพล ศุภนิรัติศัย ตัวแทนนักเรียนจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กล่าวว่า เยาวชนรู้สึกขอบคุณรัฐบาลที่ได้ส่งเสริมให้เยาวชนทำกิจกรรมต่าง ๆ มาโดยตลอดและอยากให้มีการต่อยอดเวทีกิจกรรมเด็กและเยาวชนต่าง ๆ เพื่อให้โอกาสเด็กได้แสดงความเห็น ทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เยาวชนมีวุฒิภาวะสูงขึ้น มีทักษะการทำงานและช่วยพัฒนากระบวนการตัดสินใจในเชิงสาธารณะ ตรงนี้จะมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ เพราะเยาวชนก็คือ อนาคตของประเทศถ้าสามารถสร้างให้เยาวชนมีวุฒิภาวะกล้าแสดงความเห็นในหลาย ๆ ด้านได้สำเร็จเยาวชนไทยจะสามารถก้าวสู่สังคมไทยและสังคมโลกได้เต็มภาคภูมิ เพราะฉะนั้นคุณภาพของเยาวชนจะเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของไทยที่จะอยู่ในสังคมโลกต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น