เชียงราย - นายกฯปู เตรียมขึ้นเชียงรายก่อนเข้าประชุม ครม.สัญจรที่เชียงใหม่ วางกำหนดดูโครงการดอยตุงฯ ศึกษาแนวทางปลูกป่าตามแนวพระราชดำริ “สมเด็จย่า” หวังปรับใช้ฟื้นป่าไทย ขณะที่เมืองพ่อขุนฯ เล็งชงของบดัน 3 โครงการใหญ่
วันนี้ (11 ม.ค.) นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 ม.ค.นี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดจะเดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ จ.เชียงราย เป็นเวลา 1 วันโดยไม่นอนพัก โดยในเวลาตั้งแต่ 13.00 น.จะเดินทางไปเยือนโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีการแต่งตั้ง ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ให้เป็นประธานกรรมการอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติป่าไม้ เพื่อดูพื้นที่โครงการ ศึกษาและนำแนวทางของโครงการในการปลูกป่าตามแนวพระราชดำริของสมเด็จย่า มาปรับใช้ในการฟื้นฟูสภาพธรรมชาติป่าไม้ของประเทศไทย
จากนั้นจึงเดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ณ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 15 ม.ค.55 ซึ่งจังหวัดเชียงราย จะเสนอแผนการพัฒนาเข้าไปยัง ครม.สัญจร 3 เรื่องใหญ่ๆ คือ การพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางบก โดยเฉพาะเส้นทางเลี่ยงเมืองเชียงราย เพื่อเชื่อมกับโครงข่ายถนนไปสู่สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ที่ อ.เชียงของ ชายแดนไทย-สปป.ลาว เชื่อมกับถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-จีน และท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 ซึ่งแต่ละโครงการกำลังจะแล้วเสร็จ ขณะที่การคมนาคมในปัจจุบันแออัดมากขึ้นโดยเฉพาะบนถนนพหลโยธิน ดังนั้นจะใช้ถนนพหลโยธินเพื่อการคมนาคมเป็นหลักไม่ได้อีกต่อไป แต่ต้องขยายไปยังถนนเลี่ยงเมืองและพัฒนาตามทางร่วมทางแยกสำคัญๆ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้แขวงการทาง จ.เชียงราย ไปรวบรวมข้อมูลทั้งโครงการเก่าที่เคยอยู่ในแผนและยังไม่ดำเนินการ และแนวทางการพัฒนาอื่นๆ เพื่อเสนอต่อ ครม.เพื่อของบประมาณดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อไป
นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาสายน้ำวัฒนธรรมหรือ The river of art โดยจะทำการพัฒนาภูมิทัศน์และด้านอื่นๆ ของแม่น้ำกก ในเขต อ.เมือง เพื่อส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรมล้านนา ฯลฯ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณราว 3,600 ล้านบาท
และโครงการสุดท้าย คือ การพัฒนาลุ่มแม่น้ำอิงเขต อ.เทิง เพราะแม่น้ำอิงไหลมาจากกว๊านพะเยา ผ่าน อ.เทิง ก่อนไปลงแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงของ แต่ที่ผ่านมามักจะไหลเจิ่งนองในฤดูฝน จนทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม แต่ในฤดูแล้งกลับแห้งแล้งจนทำให้ประชาชนเดือดร้อนกันทั้งสองฤดู ดังนั้นจึงจะมีการพัฒนาแหล่งน้ำในเขต ต.เวียง อ.เทิง เพื่อกักเก็บเก็บน้ำป้องกันน้ำท่วมและไว้ใช้ในฤดูแล้งต่อไป ซึ่งโครงการนี้ก็ใช้งบประมาณจำนวนมากเช่นกัน
นายธานินทร์บอกว่า โครงการต่างๆ นี้ถือว่าอยู่ในแผนการพัฒนาของจังหวัดอยู่แล้ว และที่ผ่านๆ มาหลายผู้บริหารก็พยายามแก้ไขปัญหาและพัฒนาให้ก้าวหน้า แต่การรอการจัดสรรงบประมาณตามปกติอาจจะทำให้การดำเนินการล่าช้าไม่ทันต่อเหตุการณ์ ดังนั้นจึงจะมีการนำเสนอเข้าไปยังการประชุม ครม.สัญจร เพื่อผลักดันให้มีการจัดสรรงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนายุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด และท้องที่แต่ละจังหวัดได้อย่างรวดเร็วต่อไป