ครม.ไฟเขียว คปภ.ประเมินค่าความเสียหายจากน้ำท่วม 2.6 แสนล้านบาท แบ่งเป็นภาคอุตสาหกรรม 2.2 แสนล้าน คิดเป็นร้อยละ 50 ของวงเงินเอาประกัน ภาคครัวเรือนอีกเกือบ 3.4 หมื่นล้าน คิดเป็นร้อยละ 10 ของวงเงินเอาประกัน วาง 3 แนวทางจ่ายชดเชย แล้วเสร็จใน 6 เดือน
เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 13 ธ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาลนางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ประเมินความเสียหายของภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและมีการทำประกันกับบริษัทประกันภัย ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.54 เพื่อเร่งเยียวยาผู้ที่ประสบภัย โดยมีจำนวนเงินเอาประกันรวมทั้งสิ้น 794,637 ล้านบาท และประมาณการความเสียหาย262,177 ล้านบาท แบ่งเป็นภาคอุตสาหกรรม มีนิคมอุตสาหกรรม 7แห่ง ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยใน จ.พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี มีผู้เอาประกันภัย 926 ราย จำนวนเงินเอาประกันภัยรวมทั้งสิ้น 456,783 ล้านบาท ประมาณการความเสียหาย 228,392 ล้านบาท เป็นร้อยละ 50 ของจำนวนเงินเอาประกัน ภาคครัวเรือนมีการทำประกันภัยไว้เป็นจำนวนเงินเอาประกัน 337,854 ล้านบาท ประมาณการความเสียหาย33,785 ล้านบาท เป็นร้อยละ 10 ของจำนวนเงินเอาประกัน
นางสาวอนุตตมา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ส่วนของผู้ทำประกันภัย สำนักงาน คปภ.จะดำเนินการปรับขั้นตอนการชำระค่าสินไหมทดแทน 3 แนวทาง คือ 1.เร่งรัดค่าสินไหมทดแทน โดยกำหนดอัตราชำระค่าสินไหมทดแทนภาคอุตสาหกรรมร้อยละ 75 ภาคครัวเรือนเทียบเท่าร้อยละ 100 และกำหนดระยะเวลาดำเนินการ ภาคอุตสาหกรรมกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ภาคครัวเรือนคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน 2.เพิ่มบุคคลากรผู้ประเมินความเสียหาย (Loss Adjuster) ให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยปรับหลักเกณฑ์ให้ผู้ทรงคุณวุฒิในสถาบันการศึกษาและสมาคมวิชาชีพเป็นผู้ประเมินความเสียหายนทรัพย์สินจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น 3.เปิดบริการสายด่วนประกันภัย 1186 รับปรึกษาปัญหาประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมง
หนุนมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ช่วยน้ำท่วม 25 ล้าน
นางสาวอนุตตมา แถลงอีกว่า ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบกลางรายการเงินสำรองจ่าย อนุมัติเงินจำนวน 25 ล้านบาท ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีสนับสนุนมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย โดยน้อมนำเอาพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และประสานงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการโครงการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบอุทกภัยอย่างยั่งยืน บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยให้สามารถดำเนินชีวิตตามปกติได้อย่างรวดเร็ว และพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ที่สามารถแจกจ่ายได้ทันที ต้นกล้าพืชผักสวนครัว เมล็ดพันธุ์ที่โตง่ายและนิยมบริโภคให้แก่ชาวบ้าน โดยเป้าหมายที่จะช่วยเหลือประชาชน 1 ล้านคน ในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง
เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 13 ธ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาลนางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ประเมินความเสียหายของภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและมีการทำประกันกับบริษัทประกันภัย ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.54 เพื่อเร่งเยียวยาผู้ที่ประสบภัย โดยมีจำนวนเงินเอาประกันรวมทั้งสิ้น 794,637 ล้านบาท และประมาณการความเสียหาย262,177 ล้านบาท แบ่งเป็นภาคอุตสาหกรรม มีนิคมอุตสาหกรรม 7แห่ง ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยใน จ.พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี มีผู้เอาประกันภัย 926 ราย จำนวนเงินเอาประกันภัยรวมทั้งสิ้น 456,783 ล้านบาท ประมาณการความเสียหาย 228,392 ล้านบาท เป็นร้อยละ 50 ของจำนวนเงินเอาประกัน ภาคครัวเรือนมีการทำประกันภัยไว้เป็นจำนวนเงินเอาประกัน 337,854 ล้านบาท ประมาณการความเสียหาย33,785 ล้านบาท เป็นร้อยละ 10 ของจำนวนเงินเอาประกัน
นางสาวอนุตตมา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ส่วนของผู้ทำประกันภัย สำนักงาน คปภ.จะดำเนินการปรับขั้นตอนการชำระค่าสินไหมทดแทน 3 แนวทาง คือ 1.เร่งรัดค่าสินไหมทดแทน โดยกำหนดอัตราชำระค่าสินไหมทดแทนภาคอุตสาหกรรมร้อยละ 75 ภาคครัวเรือนเทียบเท่าร้อยละ 100 และกำหนดระยะเวลาดำเนินการ ภาคอุตสาหกรรมกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ภาคครัวเรือนคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน 2.เพิ่มบุคคลากรผู้ประเมินความเสียหาย (Loss Adjuster) ให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยปรับหลักเกณฑ์ให้ผู้ทรงคุณวุฒิในสถาบันการศึกษาและสมาคมวิชาชีพเป็นผู้ประเมินความเสียหายนทรัพย์สินจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น 3.เปิดบริการสายด่วนประกันภัย 1186 รับปรึกษาปัญหาประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมง
หนุนมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ช่วยน้ำท่วม 25 ล้าน
นางสาวอนุตตมา แถลงอีกว่า ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบกลางรายการเงินสำรองจ่าย อนุมัติเงินจำนวน 25 ล้านบาท ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีสนับสนุนมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย โดยน้อมนำเอาพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และประสานงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการโครงการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบอุทกภัยอย่างยั่งยืน บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยให้สามารถดำเนินชีวิตตามปกติได้อย่างรวดเร็ว และพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ที่สามารถแจกจ่ายได้ทันที ต้นกล้าพืชผักสวนครัว เมล็ดพันธุ์ที่โตง่ายและนิยมบริโภคให้แก่ชาวบ้าน โดยเป้าหมายที่จะช่วยเหลือประชาชน 1 ล้านคน ในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง
