นครพนม-ผู้เลี้ยงปลาริมฝั่งแม่น้ำโขงนครพนมนับ 1,000 กระชังโอด ได้รับผลกระทบอากาศหนาวลมแรง น้ำโขงเกิดคลื่นตีกระชัง ทำให้ปลาอ่อนแอไม่กินอาหารและเกิดโรคตายจำนวนมาก อย่างน้อยร้อยละ 10
วันนี้(6 ม.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครพนมว่า จากสภาพอากาศหนาวเหน็บอุณภูมิต่ำสุด 13 องศาเซียลเซส และเกิดลมกรรโชกแรงข้ามโขงมาจากเทือกเขาฝั่งลาวแขวงคำม่วน สร้างความหนาวเหน็บกับชาวบ้านตามแนวลำน้ำโขงหลายอำเภอ เช่น อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมือง อ.ธาตุพนม นับ 1,000 หมู่บ้าน
ชาวบ้านต้องปิดประตูหน้าต่างๆด้านติดลำน้ำโขงอย่างมิดชิดป้องกันลมเข้า นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบหนักที่สุดต่อชาวบ้านที่เลี้ยงปลาในกระชังริมฝั่งแม่น้ำโขงตลอดแนว
นางละมัย อ่อนมณี ชาวบ้านท่าควาย อ.เมือง จ.นครพนม ผู้เลี้ยงปลาในกระชังริมฝั่งแม่น้ำโขงเปิดเผยถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นว่า ตนและผู้เลี้ยงปลาในกระชังรายอื่นๆที่เลี้ยงปลานิล ปลาเพาะฯลฯ จะได้รับความเดือดร้อนมากจากสภาพอากาศหนาว และจะมีลมกรรโชกแรงข้ามโขงมาจากเทือกเข้าฝั่งลาวตลอดเวลา ทำให้กระแสน้ำโขงเกิดเกลียวคลื่นแตกฟองซัดเข้าฝั่งอย่างแรงและกระแทกกระชังปลาตลอดเวลา
ส่งผลทำให้ผิวน้ำเย็น ปลาตกใจจะหลบอยู่ใต้ก้นกระชังขึ้นมากินอาหารและหายใจลำบาก จึงทำให้ปลาเกิดอาการอ่อนแอและเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ท้องเปื่อยและเสียชีวิตจำนวนมากถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนวิธีป้องกันเฉพาะหน้า คือ หาปูนขาวมาโรยและหายาและวิตามินหว่านให้ปลากินใต้กระซัง แต่ก็เป็นการประทังให้ปลาอยู่รอดในระดับหนึ่งเท่านั้น
จนกระทั่งเข้าสู่ฤดูร้อนการเลี้ยงปลาในกระชังจึงจะเป็นปกติ ปลาจะกินอาหารดีอ้วนถ้วนสมบูรณ์ขายได้ราคาดีส่วนหน้าหนาวชาวบ้านต้องทำใจ นอกจากจะได้ผลผลิตน้อยอัตราปลาตายก็มีอัตราเสี่ยงสูงมาก