xs
xsm
sm
md
lg

กาฬสินธุ์สรุปอุบัติเหตุ 7 วันอันตราย ตาย 4 บาดเจ็บ 37 เกินเป้า 1 คน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 แถลงผลการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุ ช่วง 7 วันอันตราย
กาฬสินธุ์ -จังหวัดกาฬสินธุ์สรุปยอดอุบัติเหตุทางถนนช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ตาย 4 คน บาดเจ็บ 37 คน เกินเป้า 1 คน สาเหตุหลักเกิดจากเมาแล้วขับ และไม่สวมหมวกนิรภัย

วันนี้ (5 ม.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายปรัชญา จินต์จันทรวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2554-วันที่ 4 มกราคม 2555 หรือ 7 วันอันตราย

จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย 5 มาตรการ คือ ด้านการบริหารจัดการ ด้านการบังคับใช้กฎหมาย ด้านวิศวกรรมจราจร ด้านการประชาสัมพันธ์ ด้านการแพทย์ฉุกเฉินและการกู้ชีพ

ทั้งนี้ ได้มีการตั้งจุดตรวจทั้งหมด 224 จุด ในพื้นที่ 18 อำเภอ ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายจราจร 2,662 คน และในช่วง 7 วันอันตราย เกิดอุบัติเหตุขึ้นรวม 29 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 37 คน และเสียชีวิต 4 คน

สำหรับยานพาหนะที่เกิดเหตุมากสุด คือ รถจักรยานยนต์ ส่วนพฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ เมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถโดยประมาท และช่วงอายุผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเฉลี่ยอายุระหว่าง 15-20 ปี

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการที่ทุกภาคส่วนร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรการ 3 ม.2 ข.1 ร.อย่างเคร่งครัด ทำให้สามารถลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุได้ร้อยละ 9.38 แต่ก็ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1 คน และจำนวนผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้น 5 ราย

ดังนั้น จึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมกันบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขับเคลื่อนรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100% ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ให้ครอบคลุม 18 อำเภอ ซึ่งจะเริ่มรณรงค์ในส่วนราชการ และเยาวชนในสถานศึกษา ตลอดจนกลุ่มเสี่ยงต่างๆ เพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น