เชียงราย - เอกชนเชียงรายระบุแม้ทหารจะกั้นลวดหนามตามแนวแม่น้ำสายกั้นระหว่างชายแดนไทย-พม่า ด้านอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย ระบุหากขึงลวดหนามไม่กระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ประธานหอการค้า อ.แม่สาย จ.ฌชียงราย กล่าวว่า การติดตั้งรั้วลวดหนามนั้นส่วนหนึ่งตนก็เห็นด้วยเพราะเป็นการป้องปรามไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย และคงจะไปเสนอความเห็นใดอีกไม่ได้แล้วเนื่องจากมีการดำเนินการไปแล้ว อย่างไรก็ตามก็ไม่อยากให้ติดตั้งในจุดที่มีความชัดเจนมากเกินไป หรือจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวซึ่งคาดหวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการได้ดีอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามวันนี้ (28 ธ.ค.) ที่บริเวณชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ทางทหารจาก ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง นำโดย พ.อ.ยงยุทธ เหล่าเขตร์การ รอง ผบ.ฉก.ม.3 ร่วมกับฝ่ายปกครอง และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันนำกำลังพลพร้อมชาวบ้านตามริมฝั่งลำน้ำสาย ติดตั้งลวดหนามตลอดแนวชายแดนไทย-พม่า ด้าน ต.เวียงพางคำ และ ต.แม่สาย อ.แม่สาย ตามนโยบายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านความมั่นคง วัตถุประสงค์เพื่อสกัดกั้นความพยายามในการลักลอบขนยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทย และป้องกันการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ เช่น ค้ามนุษย์ สินค้าหนีภาษี ฯลฯ
โดยการติดตั้งรั้วลวดหนามดำเนินการตั้งแต่บริเวณหมู่บ้านหัวฝาย ม.1 ต.เวียงพางคำ ตรงกันข้ามชุมชนบ้านปงถุน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ไปจนถึงท่ากะหล่ำ บ้านสันผักฮี้ ม.3 ต.แม่สาย บริเวณสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ตรงกันข้ามชุมชนอาข่าในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก โดยเป็นลักษณะรั้วลวดหนามหีบเพลง ซึ่งการติดตั้งได้ดำเนินการเฉพาะจุดสำคัญๆ ที่ไม่มีบ้านเรือนหรือร้านค้าหนาแน่นก่อน โดยติดตั้งบริเวณพื้นที่ว่างติดลำน้ำสายซึ่งตื้นเขินและอยู่ห่างจากฝั่งพม่าประมาณ 5-10 เมตร อย่างไรก็ตามบางจุดก็พบว่าชาวบ้านริมฝั่งกำลังก่อสร้างเป็นสิ่งปลูกสร้างอยู่ก่อนแล้วจึงมีการประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาเป็นจุดๆ ไป ขณะที่หลายแห่งที่ติดตั้งรั้วลวดหนามพบว่ามีลักษณะเป็นการสร้างบันไดทางลาดลงเพื่อการเข้าออกแดนระหว่างไทย-พม่า โดยที่ไม่ใช่จุดเข้าออกตามปกติด้วย
ทั้งนี้ทางหน่วยงานความมั่นคงระบุว่าในปัจจุบันมีท่าเถื่อนที่ใช้เพื่อการข้ามไปมาอย่างผิดกฎหมายตลอดริมฝั่งประมาณ 49 จุด ดังนั้น แต่ครั้งนี้จะมีการติดตั้งรั้วลวดหนามในจุดที่ใช้ข้ามไปมาก่อนจำนวน 12 จุด แต่พื้นที่ว่างทั่วไปก็จะดำเนินการในอนาคตตามความจำเป็นและความพร้อมต่อไป ทั้งนี้มีรายงานว่าช่วงต้นปี 2555 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจชายแดนบริเวณดังกล่าวด้วย