เชียงราย - นายอำเภอแม่สาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมเตรียมวางแนวขึงลวดหนามตลอดแนวริมลำน้ำสายชายแดนไทย-พม่า สนองนโยบาย “เฉลิม” อ้างเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดและการกระทำผิดกฎหมาย เผยรั้วลวดหนามเป็นเพียงจุดสร้างความยุ่งยากให้ขบวนการทำผิดกฏหมายเกิดความยุ่งยากมากขึ้นแค่นั้น
นายโสภณ ชุ่มชูจันทร์ นายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย เป็นประธานในการประชุมชี้แจงนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพ ติด และการกระทำผิดระหว่างประเทศภายใต้ความเร่งด่วน ณ ห้องประชุมที่ว่าการ อ.แม่สาย โดยมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ ศุลกากร ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่หน่วยประสานงานชายแดนที่ 1 ฯลฯ เข้าร่วมครบครัน
ที่ประชุมมีการแจ้งให้ทุกฝ่ายทราบว่าจะมีการขึงรั้วลวดหนามตามริมลำน้ำสายชายแดนไทย-พม่า ในบางจุดตามคำสั่งของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดและการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว หลังจากในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมีการกั้นรั้วลวดหนามดังกล่าว และการเข้าออกเมืองมีการเข้าออกผ่านจุดผ่านแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ตรงสะพานแห่งที่ 1 และขนส่งสินค้าที่สะพานแห่งที่ 2 รวมทั้งมีจุดผ่อนปรนต่างๆ อีกหลายจุด
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า พ.อ.ยงยุทธ เหล่าเขตร์การ รอง ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ให้ข้อมูลในที่ประชุมว่าชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย ถือเป็นเขตชุมชนหนาแน่น ซึ่งที่ผ่านมามีการเดินทางเข้าออกอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีการป้องกันยาเสพติดทะลักและแรงงานเถื่อนอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด รวมถึงการลักลอบข้ามแดนผ่านลำน้ำสายซึ่งเป็นพรมแดนแคบๆ ดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพบช่องทางที่มีความพยายามลักลอบข้ามไปมาถึง 49 จุด ดังนั้น เมื่อได้รับภาระกิจจึงจะวางลวดหนามหีบเพลงในพื้นที่ที่ใช้เป็นท่าข้ามก่อนจำนวน 12 จุด ตั้งแต่หมู่บ้านหัวฝาย ม.1 ต.เวียงพางคำ ตรงกันข้ามชุมชนบ้านปงถุน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ไปจนถึงท่ากะหล่ำ บ้านสันผักฮี้ ม.3 ต.แม่สาย บริเวณสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ตรงกันข้ามชุมชนอาข่าในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก โดยการวางลวดหนามจะวางเป็นชั้นรวมจำนวน 3 ชั้น
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ที่ประชุมมีการระบุว่าที่ผ่านมามีผู้พยายามทำให้เกิดช่องทางเถื่อนต่างๆ เพื่อการขนสินค้าและคนเข้าออกอย่างต่อเนื่อง โดยมาจากผู้มีอิทธิพล และผู้มีผลประโยชน์ส่วนชาวบ้านที่ทำมาหากินสุจริตก็เกิดความหวาดกลัว ซึ่งเป็นผลเสียทำให้ประเทศสูญเสียผลประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง จึงมีการกั้นรั้วลวดหนามขึ้น
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมระบุว่าการใช้ลวดหนามขึงแนวชายแดนไม่ใช่หลักการในการ สกัดกั้นยาเสพติด แรงงานเถื่อน หรือการลักลอบเข้าเมือง โดยตรง แต่เป็นวิธีการหนึ่งที่จะทำให้ขบวนการเหล่านั้นเกิดความยุ่งยากและเห็นว่า เป็นทางออกของการปฏิบัติที่ดีที่สุดเท่านั้น
ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบาย ของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ได้ลงพื้นที่ไปดูพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ด้าน จ.เชียงราย เมื่อประมาณ 2 ที่ผ่านมาและจะเดินทางไปอีกครั้งในช่วงเดือน ม.ค. 2555 ด้วย อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวมีการกล่าวขานกันมานานแล้ว แต่ไม่มีการนำไปดำเนินการ และยังเป็นที่สงสัยของบางฝ่ายว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะชายแดนมีความแออัดไปด้วยบ้านเรือนผู้คนริมฝั่งและบางจุดไม่มีแม้แต่ช่องการวางรั้ว ยกเว้นพื้นที่โล่งกว้างนอกเขตชุมชนและตลาดชายแดนไปทางสะพานข้ามลำน้ำสายแห่ง ที่ 2 เป็นต้นไปเท่านั้น