หนองคาย- กระทรวงอุตสาหกรรม ประเมินผล โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาค ที่จังหวัดหนองคาย พบผู้ประกอบการโรงสีข้าวเข้าร่วมโครงการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดพลังงานได้ตามเป้าหมาย พร้อมเดินหน้าโครงการครอบคลุมทั่วประเทศ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (27 ธ.ค.) นายเสน่ห์ นิยมไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะได้ตรวจเยี่ยมห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีไฟชัยธนาสินเจริญ เลขที่ 236 หมู่ 5 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย โดยมี นายทวีชัย เตียวศิริชัยสกุล กรรมการผู้จัดการโรงสีให้การต้อนรับ โดยเป็นการตรวจติดตามสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาค ตามนโยบาย One Province One Agro-Industrial Product (OPOAI)
นายเสน่ห์ นิยมไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาค กระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดแผนการพัฒนาสถานประกอบการไว้ 6 แผนงาน ประกอบด้วย การบริหารจัดการโลจิสติกส์, การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต, การปรับปรุงคุณภาพและพัฒนางาน, การลดต้นทุนพลังงาน, การยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ระบบมาตรฐานสากล และกลยุทธ์ขับเคลื่อนการตลาด
ทั้งนี้ เพื่อให้สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตผลการเกษตร ทดแทนการนำเข้าและส่งออกยังตลาดต่างประเทศ เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550 พบว่ามีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการกว่า 400 ราย สามารถลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และสร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจได้กว่า 1,300 ล้านบาท
สำหรับการดำเนินโครงการในปี 2554 กระทรวงอุตสาหกรรมตั้งเป้าหมายในการพัฒนาและยกระดับสถานประกอบการไว้ 150 ราย 300 แผนงาน ครอบคลุม 75 จังหวัดทั่วประเทศ มีสถานประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการ 157 ราย โดยแผนงานที่สถานประกอบการให้ความสนใจและเลือกที่จะพัฒนามากที่สุด ได้แก่ แผนงานการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รองลงมาเป็นการลดต้นทุนพลังงาน การปรับปรุงคุณภาพและพัฒนางาน
ด้าน นายทวีชัย เตียวศิริชัยสกุล กรรมการผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีไฟชัยธนาสินเจริญ กล่าวว่า ได้เข้าร่วมโครงการนี้ภายใต้แผนงานการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการลดต้นทุนพลังงาน เมื่อได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ได้ปริมาณข้าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ซึ่งก่อนการปรับปรุงมีกำลังการผลิต 200 ตันข้าวเปลือกต่อวัน ได้ปริมาณข้าวร้อยละ 35.6 หลังการปรับปรุงแล้วมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 39.6 และสามารถลดต้นทุนพลังงานได้ร้อยละ 11 เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (27 ธ.ค.) นายเสน่ห์ นิยมไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะได้ตรวจเยี่ยมห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีไฟชัยธนาสินเจริญ เลขที่ 236 หมู่ 5 ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย โดยมี นายทวีชัย เตียวศิริชัยสกุล กรรมการผู้จัดการโรงสีให้การต้อนรับ โดยเป็นการตรวจติดตามสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาค ตามนโยบาย One Province One Agro-Industrial Product (OPOAI)
นายเสน่ห์ นิยมไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาค กระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดแผนการพัฒนาสถานประกอบการไว้ 6 แผนงาน ประกอบด้วย การบริหารจัดการโลจิสติกส์, การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต, การปรับปรุงคุณภาพและพัฒนางาน, การลดต้นทุนพลังงาน, การยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ระบบมาตรฐานสากล และกลยุทธ์ขับเคลื่อนการตลาด
ทั้งนี้ เพื่อให้สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตผลการเกษตร ทดแทนการนำเข้าและส่งออกยังตลาดต่างประเทศ เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550 พบว่ามีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการกว่า 400 ราย สามารถลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และสร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจได้กว่า 1,300 ล้านบาท
สำหรับการดำเนินโครงการในปี 2554 กระทรวงอุตสาหกรรมตั้งเป้าหมายในการพัฒนาและยกระดับสถานประกอบการไว้ 150 ราย 300 แผนงาน ครอบคลุม 75 จังหวัดทั่วประเทศ มีสถานประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการ 157 ราย โดยแผนงานที่สถานประกอบการให้ความสนใจและเลือกที่จะพัฒนามากที่สุด ได้แก่ แผนงานการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รองลงมาเป็นการลดต้นทุนพลังงาน การปรับปรุงคุณภาพและพัฒนางาน
ด้าน นายทวีชัย เตียวศิริชัยสกุล กรรมการผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีไฟชัยธนาสินเจริญ กล่าวว่า ได้เข้าร่วมโครงการนี้ภายใต้แผนงานการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการลดต้นทุนพลังงาน เมื่อได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ได้ปริมาณข้าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ซึ่งก่อนการปรับปรุงมีกำลังการผลิต 200 ตันข้าวเปลือกต่อวัน ได้ปริมาณข้าวร้อยละ 35.6 หลังการปรับปรุงแล้วมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 39.6 และสามารถลดต้นทุนพลังงานได้ร้อยละ 11 เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา