ลำปาง - สัตวแพทย์เตือนควาญ-เจ้าของช้าง ระวังเรื่องอาหารช้างช่วงหน้าหนาว ทำช้างท้องอืดจนล้มได้ เผยแต่ละปีมีช้างท้องอืดต้องส่งเข้ารับการรักษามากกว่า 30 เชือก
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า ที่โรงพยาบาลช้าง โรงที่ 3 ของมูลนิธิเพื่อนช้าง จังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่ต้องเติมสารน้ำเกลือ และวิตามินทางเส้นเลือดให้กับช้างพังทองโรย อายุ 33 ปี ซึ่งเจ้าของนำมาจากอำเภอท่าสองยาง จ.ตาก เข้ารักษาเมื่อคืนวันที่ 19 ธ.ค.54 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีอาการท้องอืด ไม่ถ่ายมาสองวันทำให้ท้องของช้างเริ่มโต
ส่วนพังกาญจนาอายุ 45 ปี เป็นช้างจากปางช้างแห่งหนึ่งใน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งควาญได้นำเข้ารักษาก่อนหน้านี้ด้วยอาการท้องอืดเช่นกัน ล่าสุดเริ่มมีอาการดีขึ้นสามารถขับถ่ายและกินหญ้าได้บ้าง
นายสัตว์แพทย์ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลช้าง มูลนิธิเพื่อนช้างได้เตือนเจ้าของ ควาญ รวมถึงปางช้างต่างๆ ว่า เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ถือเป็นช่วงฤดูกาลที่จะพบช้างป่วยด้วยอาการท้องอืดจำนวนมาก เฉลี่ยแล้วในแต่ละปีจะมีช้างท้องอืดส่งเข้ารักษามากกว่า 30 เชือก เนื่องจากในช่วงนี้หญ้าที่ใช้เป็นอาหารช้างจะแก่ แข็ง ประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวทำให้ช้างทำงานหนัก แต่ละวันจะต้องเดินส่งนักท่องเที่ยวหลายรอบ ทำให้ช้างเหนื่อย ก็จะกินอาหารทีละมากๆ
ส่วนควาญก็ไม่ค่อยดูแล เมื่อเสร็จจากงานก็จะนำหญ้าหรืออาหารมากองไว้ให้ช้างกินจำนวนมาก โดยไม่ได้ให้น้ำกินอย่างเพียงพอ ทำให้หญ้าที่ช้างกินเข้าไปไม่ยอยจับเป็นก้อนจนช้างขับถ่ายลำบากจึงทำให้ท้องอืด
ซึ่งหากท้องอืดไม่มากก็อาจไม่เป็นอันตราย แต่จะเสียเวลา แต่หากเป็นมาก ก็อาจจะทำให้ช้างล้มได้เช่นกัน
สำหรับการรักษาเบื้องต้นทางสัตวแพทย์ ได้ใช้วิธีล้วงเอาอุจจาระออก และให้กินมะขามเปียก ฉีดยาขยายลำไส้ ให้สารน้ำเกลือทางเส้นเลือด เพื่อทำให้อุจจาระนิ่มและช้างถ่ายออกมาได้ง่ายขึ้น
ส่วนวิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้ช้างเกิดอาการท้องอืด สามารถทำได้โดยควาญและเจ้าของช้างควรเอาใจใส่และควบคุมอาหาร โดยเลือกหญ้าที่อ่อน หากเป็นต้นกล้วยให้หั่นเป็นท่อนเล็กๆ เพื่อไม่ให้เส้นใยที่ยาวม้วนเป็นก้อนขนาดใหญ่ในท้องช้างจนช้างไม่สามารถขับถ่ายได้ และเมื่อช้างกินอาหารเสร็จให้ช้างกินน้ำตามให้มากๆ ก็จะช่วยได้