ลำปาง - มูลนิธิเพื่อนช้างรับช้างท้องอืดเข้ารักษาอีกเชือก หลังพบไม่ถ่ายหลายวัน-ท้องเริ่มโตอาการน่าห่วง ด้านสัตวแพทย์ชี้เป็นเพราะเจ้าของช้างให้อาหารมากเกินไป-หญ้าแก่ทำให้ไม่ย่อย เตือนให้อาหารช้างต้องระวัง หากท้องอืดรักษาไม่ทันช้างอาจล้มได้
วันนี้ (17 ต.ค.) โรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง จ.ลำปาง ได้รับตัวช้างพังคำมูล อายุ 50 ปี จาก อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ หลังจากช้างพังคำมูลมีอาการป่วยเนื่องจากท้องอืด ไม่ขับถ่ายมาหลายวัน จนทำให้ท้องขยายโตมากเหมือนกับช้างที่ตั้งท้องแก่ โดยเมื่อมาถึงโรงพยาบาลช้าง ควาญช้างได้นำช้างพังคำมูลซึ่งอยู่ในสภาพเซื่องซึมอย่างเห็นได้ชัดลงจากรถแล้วค่อยๆ เดินเข้าโรงเรือน เพื่อให้สัตวแพทย์ทำการตรวจรักษา
นายสัตวแพทย์ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยว่า จากที่ดูอาการถือว่ายังน่าเป็นห่วง ในเบื้องต้นจะให้ช้างได้พักผ่อนสักระยะหนึ่งก่อนเพื่อที่จะให้ร่างกายช้างดีขึ้น จากนั้นจะทำการตรวจอาการภายนอกที่บริเวณท้องของช้างซึ่งมีการขยายใหญ่มาก
สำหรับสาเหตุน่าจะมาจากอาหารอุดตันในลำไส้ เนื่องจากระบบย่อยอาหารทำงานหนัก เบื้องต้นได้ให้กินมะขามเปียกและฉีดยาขยายลำไส้ แล้วจึงจะทำการล้วงสวนทวารช้างเอาเศษหญ้าที่อุดตันในระบบขับถ่ายออกมาให้มากที่สุด เพื่อที่จะให้ช้างได้ขับถ่ายได้เองซึ่งจะทำให้ช้างดีขึ้น แต่หากยังไม่ดีขึ้นก็จะต้องตรวจหาสาเหตุและให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาช้างต่อไป
นายสัตวแพทย์ปรีชากล่าวต่อไปว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมีช้างหลายเชือกแล้วที่ถูกส่งเข้ามารับการรักษาเนื่องจากอาการท้องอืด โดยสาเหตุนั้นมาจากการเลี้ยงดูของเจ้าของและควาญช้างที่ไม่เอาใจใส่เท่าที่ควร กล่าวคือ เมื่อช้างทำงานมาแล้วก็นำช้างมาผูกมัดก่อนจะนำหญ้ามาให้ช้างกินทันทีคราวละมากๆ แต่ไม่ได้ตรวจสอบว่าหญ้าที่ให้ช้างนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร เมื่อช้างกินหญ้าที่แก่และแข็งเข้าไปก็จะทำให้ช้างป่วยได้
ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลมูลนิธิเพื่อนช้างกล่าวด้วยว่า ในช่วงนี้หญ้าที่ใช้เลี้ยงช้างเริ่มแก่แล้ว ดังนั้น หากคนเลี้ยงช้างจะนำหญ้ามาให้เป็นอาหารช้าง ควรจะใช้มัดตัดหรือหั่นหญ้าเป็นชิ้นให้ช้างกิน และควบคุมการกินด้วย เพราะหากไม่ช่วยกันดูแลตั้งแต่ต้นช้างก็จะป่วยเพิ่มเรื่อยๆ และหากรักษาไม่ทันช้างสามารถล้มได้ทันที
