กาญจนบุรี - ม็อบโคนมท่าม่วง ปิดถนนแสงชูโต “เทนม” หน้าศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เรียกร้องให้รัฐบาล “ปู” ช่วยเหลือเยียวยา พร้อมนัดเกษตรกรสมาชิกทั้งหมดรวมตัวกันไปรอฟังคำตอบที่ทำเนียบรัฐบาล 20 ธ.ค.นี้
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (16 ธ.ค.) นายปภณภพ เฉลิมกลิ่น ผู้จัดการสหกรณ์โคนมท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้นำสมาชิกเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวนมจำนวน 195 ฟาร์มกว่า 200 คน เดินทางมาปิดถนนแสงชูโต บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ช่วงขาเข้ากรุงเทพฯ จากนั้นแกนนำได้ปราศรัยโจมตีการทำงานของราชการและได้อ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อจากนั้นได้นำน้ำนมดิบเทลงบนถนนและสลายตัว
นายปภณภพ เปิดเผยว่า การเดินทางมาชุมนุมปิดถนนเทน้ำนมดิบในครั้งนี้ เนื่องจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เราเคยเดินทางมายื่นหนังผ่านทางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา
โดยผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานแปรรูปนม บริษัท เอฟแอนด์เอ็นแดรี่ส์ ประเทศไทย จำกัด ที่สหกรณ์โคนมท่าม่วง จำกัด รวบรวมน้ำนมดิบจากเกษตรกรสมาชิก จำนวน 19 ตันต่อวัน ซึ่งในขณะนี้ไม่สามารถรับน้ำนมจากสหกรณ์โคนมได้ทั้งหมด บริษัทได้พยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มความสามารถ โดยการจัดหาโรงงานแปรรูปนม เพื่อรองรับน้ำนมดิบจากเกษตรกร สหกรณ์โคนมท่าม่วงได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือในหลายช่องทางแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข และช่วยเหลือ ทำให้สหกรณ์ต้องเทน้ำนมดิบทิ้งไปแล้ว 135 ตัน มูลค่าตันละ 18,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,430,000 บาท ซึ่งเกษตรกรมีต้นทุนในการเลี้ยงโคนมที่ต้องใช้จ่ายอยู่ทุกวัน เนื่องจากโคนมต้องกินทุกวันหยุดรีดนมไม่ได้ ถ้าหยุดก็เป็นโรคเต้านมอักเสบ ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากมหาอุทกภัยน้ำท่วมโรงงานแปรรูปนม
นายปภณภพ กล่าวต่อว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของเกษตรกรโคนมท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จึงยื่นข้อเสนอ 2 ข้อ ดังนี้ 1.ให้ภาครัฐช่วยจัดหาโรงงานแปรรูปให้สหกรณ์โคนมท่าม่วง ส่งน้ำนมดิบเพิ่มเติมจากเดิม โดยไม่ต้องมีการเทน้ำนมดิบทิ้งอีก 2.ให้ภาครัฐจัดหามาตรการชดเชยเยียวยาน้ำนมดิบที่เกษตรกรได้เททิ้งไป เพื่อให้เกษตรกรมีเงินไปชำระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงโคนม
“เพราะตอนนี้เป็นหนี้ค่าอาหารสัตว์ในการเลี้ยงโคนมกันอย่างมาก เพื่อให้ภาครัฐช่วยดำเนินการแก้ไขทั้ง 2 ข้อโดยเร่งด่วน ซึ่งเกษตรกรสมาชิกทั้งหมดจะรวมตัวกันไปรอฟังคำตอบที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 20 ธันวาคม 2554 นี้”