ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เด็กสาวนักเรียน เหยื่อ “ไอ้หื่น” ลวงทาง “เฟซบุ๊ก” ไปข่มขืน และตัวแทนสถานศึกษาโคราช เข้าแจ้งความเพิ่มรวม 5 ราย ด้านตำรวจนำตัว “ไอ้หื่น” ไปตรวจร่างกาย แพทย์ยันผู้ต้องหาไม่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง พร้อมนำไปทำแผนในที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ ขณะผู้ต้องหา เผย เป็น รปภ.โรงแรมในภูเก็ต อ้างไม่ได้ข่มขืน เด็กยินยอมเอง
วันนี้ (16 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า คดี นายวิมล ศรีดา อายุ 37 ปี ฉายา “แดน สีดา”, “นักรบแดนใต้” ชาว ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ก่อเหตุล่อลวงเด็กสาวนักเรียน ผ่านทางเฟซบุ๊ก ไปข่มขืนกระทำชำเรา และถ่ายคลิปวิดีโอไว้แบล็กเมล์ และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) ล่าสุด วันนี้ เมื่อเวลา 11.00 น.มีผู้เสียหายเป็นเด็กนักเรียนหญิงจำนวน 2 ราย เดินทางมาพร้อมผู้ปกครอง เข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ นายวิมล ผู้ต้องหา หลังจากก่อนหน้านี้มีผู้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้วรวม 3 ราย
พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ศิริพรวิวัฒน์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากประชาชนได้รับทราบข่าวผ่านสื่อมวลชน ทำให้มีผู้เสียหายเดินทางแจ้งความเพิ่มเติมอีก โดยล่าสุด มีผู้เสียหายเป็นเด็กนักเรียนหญิง อายุ 13 ปี จำนวน 2 ราย ได้เดินทางมาพร้อมผู้ปกครอง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายวิมล
นอกจากนี้ ยังมีสถานศึกษาที่เด็กหญิงทั้ง 2 คน เรียนอยู่ แจ้งความให้ดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ กับผู้ต้องหาเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากผู้ต้องหาได้นำภาพผู้เสียหาย และชื่อสถานศึกษาดังกล่าว ไปโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้แก่โรงเรียน ซึ่งร้อยเวรเจ้าของคดี ได้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาแล้ว
“เพื่อความสบายใจของผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งตัว นายวิมล ผู้ต้องหาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ผลปรากฏว่า ผู้ต้องหาไม่ได้เป็นโรคติดต่อร้ายแรงแต่อย่างใด ซึ่งหากประชาชนรายใดที่เคยถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวง ได้รับความเสียหาย หรือเคยพบเห็นพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ ขอให้เข้ามาให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะได้มีการดำเนินการตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป” พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ เวลา 10.00 น.วันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ศิริพรวิวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมด้วย ร.ต.อ.(หญิง) เจนจิรา เรืองสินทรัพย์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ได้ควบคุมตัว นายวิมล ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ห้องพักเลขที่ 115 และ 119 โรงแรมศรีสุระ ถ.สุรนารี และ ห้องเช่า เลขที่ 494/8 ตรอกวัดสะแก ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง นครราชสีมา โดยทั้งสถานที่ประกอบเหตุทั้งสอง อยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่ได้จำลองเหตุการณ์ และให้ผู้ต้องขังชี้จุดที่วางกล้องถ่ายคลิปวิดีโอ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงรีบควบคุมตัวไปดำเนินผลัดฟ้อง ฝากขัง ที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา
ร.ต.อ.(หญิง) เจนจิรา เรืองสินทรัพย์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า เดือนก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีครู และ ผู้ปกครอง โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง แจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษ ว่า มีชายคนร้ายล่อลวงเด็กอายุ 13 ปี ไปข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมถ่ายคลิปไว้ ตนจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาให้ทราบ เพื่อหาข้อมูลทางลับ ต่อมาผู้ปกครองของเหยื่อ เกรงลูกสาวจะเกิดความอับอาย จึงขอให้นำตัว นายวิมล มาห้ามปราม มิให้กระทำอีก และพบอุปสรรคในการรวบรวมพยาน หลักฐาน ที่มีค่อนข้างจำกัด ที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ นายวิมล ไม่ยอมเข็ดหลาบ ยังลักลอบติดต่อกับเหยื่อ โดยนัดแนะให้มามีเพศสัมพันธ์กันอีก พร้อมนำไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก ระบุตัวเองได้มีเพศสัมพันธ์กับเด็กนักเรียนดังกล่าวแล้วหลายคน ทำให้ครูของโรงเรียน และผู้ปกครองของเหยื่อจึงจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ทางตำรวจจึงได้วางแผนหลอกล่อให้ นายวิมล หลงกล จึงสามารถจับกุมตัวได้ นอกจากนี้ ยังได้รับการประสานจากครูโรงเรียนดังกล่าว นำผู้เสียหายอีก 3 ราย ที่ถูก นายวิมล ประกอบเหตุ มาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมในทางลับ ซึ่งมีเหยื่อถูกนายวิมลประกอบเหตุมาแล้วหลายคน
ขณะที่ นายวิมล ศรีดา อายุ 37 ปี ชาว ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหา ให้การว่า ทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใน จ.ภูเก็ต ได้เล่นเฟซบุ๊กโดยทักทายพูดคุยด้วยความเป็นกันเอง เด็กจึงเชื่อใจเป็นฝ่ายนัดหมายให้มาพบ ตนจึงนั่งรถโดยสารจาก จ.ภูเก็ต มาตามที่นัดไว้ มิได้ข่มขืนตามที่เป็นข่าว ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์เด็กยินยอมเอง บางครั้งมีการเสนอขอมีเพศสัมพันธ์ โดยขอโทรศัพท์มือถือราคาแพง เช่น ไอโฟน บีบี และ เงิน ตนได้ปฏิเสธ และที่ผ่านมา มีเพศสัมพันธ์กับเด็กนักเรียนซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องรวม 2 คน เท่านั้น