ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงจับอดีตแชมป์มวยไทย 7 สี ไม่เข็ดหลาบ ขับแท็กซี่ชิงทรัพย์ และข่มขืนเหยื่อสาว รับทำมาแล้ว 9 ครั้ง และเพิ่งพ้นโทษเมื่อปี 49 ด้าน รองผบ.ตร.สั่งตำรวจนนทบุรี จัดสายตรวจป้องกันอาชญากรรมหลังน้ำลด
วันนี้ (13 ธ.ค.) เวลา 11.00 น.กองบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ พ.ต.อ.อภิชาต เรือนทิพย์ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี แถลงจับกุม นายนพพล วงกฎทอง อายุ 53 ปี อดีตแชมป์มวยไทย 7 สี ชื่อในวงการ “พยัคฆ์น้อย เจนณรงค์” ที่บริเวณริมทางสาธารณะ ซ.กันตนา ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ซึ่งมีอาวุธและใช้ยานพาหนะ และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นพร้อมใช้กำลังประทุษร้าย
นายนพพล ให้การรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุชิงทรัพย์และข่มขืนกระทำชำเรามาแล้ว 9 ครั้ง โดยตนจะขับรถยนต์แท็กซี่ที่เช่ามา โดยติดแผ่นทะเบียนรถเฉพาะด้านหน้า และใช้เทปกาวปิดทับหมายเลขทะเบียนบริเวณภายในรถไว้ รวมทั้งใช้สติกเกอร์ปิดทับหมายเลขทะเบียนรถด้านข้าง แล้วทำการล็อกนิรภัยประตูหลังทั้งสองข้าง ซึ่งตนจะออกไปก่อเหตุในช่วงเวลาประมาณ 22.00-02.00 น.โดยขณะขับรถแท็กซี่ตระเวนออกหาเหยื่อนั้น ภายในรถจะไม่เปิดมิเตอร์ว่างไว้ แต่เมื่อพบลูกค้า ซึ่งเป็นหญิงสาวกำลังรอรถแท็กซี่ ก็จะเปิดมิเตอร์ให้ว่าง จากนั้นจะพาผู้โดยสารไปส่งที่หมาย แต่ระหว่างขับรถแท็กซี่ไปตามเส้นทางได้ประมาณครึ่งทาง ก็จะฉวยโอกาสขับรถไปจอดในที่เปลี่ยวและมืด จากนั้นใช้อาวุธมีดจี้ผู้โดยสาร พร้อมบังคับข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อแล้วเสร็จจะปล่อยผู้โดยสารทิ้งไว้ข้างทาง พร้อมนำทรัพย์สินผู้เสียหายไปขาย และจะเช่าแท็กซี่คันอื่นมาใช้ก่อเหตุอีก ซึ่งตนเคยติดคุกในความผิดฐานชิงทรัพย์ และข่มขืนผู้โดยสาร จำนวน 2 คดี เมื่อปี 2540 ที่เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และพ้นโทษมาเมื่อปี 2549 ก่อนมาก่อเหตุอีกครั้ง
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.ได้เดินทางมามอบนโยบายป้องกันปราบปรามอาชญากรรมหลังน้ำลด แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ซึ่งจังหวัดนนทบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งที่ประสบปัญหาอุทกภัยเกือบเต็มพื้นที่ จึงเน้นย้ำให้จัดสายตรวจข้าถึงทุกพื้นที่ รวมทั้งจัดอาสาสมัครร่วมกับตำรวจในการออกตรวจ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน และป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ และกำชับให้จับกุมผู้ต้องหาคดีค้างเก่าและผู้ต้องหาที่มีหมายจับ