ระยอง - ตำรวจเมืองระยองรวบแก๊งยาบ้ารายใหญ่ข้างโรงพัก ได้ของกลางยาบ้า 78,000 เม็ด พร้อมปืนอาก้าและปืนพกสั้น และกระสุน
วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่หน้า สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธร (ผบช.ภ.2) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผบก.ภ.จ.ระยอง พ.ต.อ.ชัชวาลย์ พิสุทธิวงส์ ผกก.สภ.นิคมพัฒนา นายมนต์ชัย พิณประเสริฐ นายอำเภอนิคมพัฒนา ได้ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายพัลลภ หรือนุ๊ก เกษอุดม อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 28/5 หมู่ 1 (อยู่ข้างโรงพักนิคมพัฒนา) ต.นิคมพัฒนาพร้อมของกลางยาบ้า 78,000 เม็ด ถุงกระดาษสีน้ำตาล 1 ใบกระเป๋าใส่เสื้อผ้า 1 ใบ อาวุธปืนรีวอลเวอร์ สมิทแอนด์เวสสัน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 5 นัด อาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก กระสุนปืนอาก้า 21 นัด รถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา หมายเลขทะเบียน กธ 6807 ระยอง รถยนต์กระบะแค็บยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ ทะเบียน ตก 5701 กทม. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ BUELL สีดำ 2 แรงม้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
พล.ต.ท.ปัญญากล่าวว่า พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ผกก.สภ.นิคม พัฒนาพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดักซุ่มผู้ต้องหาบริเวณบ้านเช่าเลขที่ 68/35 หมู่ 2 บ้านหนองผักหนาม ต.มาบข่า หลังรับได้รับรายงานว่า นายพัลลภ หรือนุ๊ก มีพฤติการณ์จำหน่ายยาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่ และนำยาบ้ามาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว
จนกระทั่งเวลา 15.00 น.วันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา นายพัลลภเดินหิ้วถุงกระดาษสีน้ำตาล ออกมาจากบ้านเช่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมและตรวจค้นภายในถุงกระดาษพบยาบ้าจำนวน 6,000 เม็ด
จากนั้นนำตัวไปค้นบ้านเช่าพบยาบ้าอีกจำนวน 72,000 เม็ด พร้อมกระสุนปืนอาก้า รวม 21 นัด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 28/5 หมู่ 1 ต.นิคมพัฒนา อยู่ห่างจาก สภ.นิคมพัฒนา 100 เมตร ตรวจค้นพบอาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน รีวอลเวอร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน รวม 5 นัด และจากการตรวจค้นภายในรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน กธ 6807 ระยอง ของผู้ต้องหา พบอาวุธปืนอาก้า จำนวน 1 กระบอก
พล.ต.ท.ปัญญากล่าวว่า แก๊งยาบ้ารายใหญ่รายนี้เป็นเครือข่ายที่สำคัญในพื้นที่ จ.ระยองและใกล้เคียง ขณะนี้กำชับให้ พล.ต.ต.ปรีชา เร่งสอบสวนขยายผลจับกุม ส่วนผู้ต้องหาให้การยอมรับว่ามีคนสั่งทางโทรศัพท์ให้ไปรับยาบ้ามาจำหน่ายแต่ไม่ทราบว่าโทรมาจากที่ใด
ส่วนรถยนต์เก๋งและรถกระบะเป็นของเพื่อนให้มาใช้ และรับสารภาพว่าเคยติดคุกคดียาเสพติดและออกจากคุกเมื่อปี 2551 และรับว่ารับยาบ้ามาจำหน่ายรวม 2 ครั้ง ครั้งแรก 60,000 เม็ด ครั้งที่สอง 78,000 เม็ด และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุม