อุบลราชธานี- ชาวชุมชนหาดคูเดื่อ อ.เมืองอุบลราชธานี ซึ่งประกอบอาชีพให้บริการแพอาหาร ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม และขาดรายได้จากการประกอบการมานานกว่า 3 เดือน วอนรัฐหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยถูก ใช้ฟื้นฟูกิจการ
วันนี้ (24 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชุมชนหาดคูเดื่อ ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เจ้าของแพอาหารริมแม่น้ำมูล ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม กลับเข้าปรับปรุงแพอาหารที่ชำรุดเสียหาย เพราะแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน เพราะเจ้าของต้องหนีน้ำท่วมไปพักอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพ
จากการสำรวจพบว่าแพส่วนใหญ่ของผู้ประกอบการกว่า 70 เจ้า ไม้ไผ่ที่ทำเป็นแพหมดสภาพการใช้งาน ถังน้ำมันที่ใช้เป็นทุ่นพยุงให้แพลอยน้ำชำรุด เพราะถูกกระแสน้ำพัดแรงจนเสียรูป ส่วนหลังคาที่ทำจากหญ้าคาหลุดออก เพราะไม่ได้รับการบำรุงรักษาในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
นายคำดี ริ้วทอง เจ้าของแพอาหารร้านปราณี กล่าวว่า การปรับปรุงพื้นฟูสภาพแพอาหารให้สามารถกลับมาเปิดบริการได้อีก ต้องเปลี่ยนไม้ไผที่ประกอบเป็นตัวแพ ถังน้ำมันที่ใช้เป็นทุ่นลอยน้ำ รวมทั้งหลังคาที่ทำจากหญ้าคา เพื่อสร้างความมั่นคงแข็งแรง ซึ่งวัสดุทั้งหมดขณะนี้มีราคาแพงขึ้นจากเดิมราว 20% รวมทั้งตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการไม่มีรายได้
จึงอยากให้รัฐบาลช่วยหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยถูกให้ผู้ประกอบการนำมาใช้ฟื้นฟูกิจการ เพื่อประกอบกิจการได้ต่อไปด้วย
ขณะเดียวกัน ที่บ้านช่างหม้อ หมู่ที่ 5 ตำบลคำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่เข้าสำรวจบ้าน นายฉลอง หนูพันธ์ ชาวบ้านช่างหม้อ ซึ่งถูกแม่น้ำมูลไหลท่วมและกระแสน้ำที่ไหลแรง ได้กัดเซาะชั้นดินด้านล่างจนเกิดการทรุดตัว ทำให้บ้านไม้ชั้นเดียวทรุดตัวจมอยู่ในน้ำ
นายฉลอง เจ้าของบ้านระบุว่า ก่อนน้ำท่วมเตรียมไม้มาใช้ปรับปรุงบ้าน แต่ไม่ทันได้ทำถูกน้ำท่วมก่อน และหลังน้ำลดกลับเข้ามาดูพบบ้านได้ทรุดตัวจมอยู่ในน้ำ จึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากสำนักงานเทศบาลตำบลคำน้ำแซบ เพื่อขอเงินชดเชยมาใช้สร้างบ้านหลังใหม่ ซึ่งต้องรอให้น้ำลดเข้าสู่ภาวะปกติ จึงเข้าไปสำรวจได้
รายงานข่าวแจ้งต่ออีกว่า ในบริเวณใกล้เคียงกันยังมีบ้านอีก 3 หลัง ถูกกระแสน้ำที่ไหลแรง พัดเอาสังกะสีหลังคาบ้าน รวมทั้งไม้ฝาบ้านหลุดหายลอยไปกับน้ำ ซึ่งชาวบ้านกำลังรอเงินชดเชย เพื่อนำมาใช้ซ่อมแซมบ้านให้สามารถอยู่อาศัยได้ต่อไปด้วย
สำหรับแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง วันนี้ลดลงอีก 17 เซนติเมตร โดยมีระดับน้ำสูง 7.10 เมตร ทำให้มีน้ำล้นตลิ่ง 10 เซนติเมตร และอัตราการไหลของน้ำมีความเร็ว 2,670 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือมีน้ำเข้าสู่ลำน้ำเกินกว่าปกติเพียง 70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่วนแม่น้ำชีที่สถานีวัดน้ำฝายธาตุน้อย อ.เขื่องใน ยังมีน้ำล้นตลิ่งสูง 94 เซนติเมตร สำหรับที่ปากแม่น้ำมูลที่ อ.โขงเจียม มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 7.28 เมตร และแม่น้ำโขงที่อำเภอเดียวกันมีน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 9.97 เมตร
ขณะที่ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ และเทศบาลนครอุบลราชธานี รวมทั้งที่อยู่ตามชานเมืองของทั้ง 2 อำเภอ อีกกว่า 100 ครอบครัว ที่บ้านอยู่ในระดับต่ำยังต้องกระจายอยู่ในศูนย์อพยพที่เหลืออยู่ 14 แห่งต่อไป และคาดว่า จะสามารถกลับเข้าไปอยู่ในบ้านได้ตามปกติอย่างช้าต้นเดือนธันวาคมศกนี้