นครปฐม - ศปภ.นครปฐม ประชุมหาแนวทางกำจัดน้ำท่วมในพื้นที่ลงสู่ทะเลโดยเร็ว เผยน้ำท่วมนครปฐมมาตั้งแต่ 2 ก.ย.54 เสียชีวิจแล้ว 18 ศพ
วันนี้ (23 พ.ย.54) นายนิมิต จันทน์วิมล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัยจังหวัดนครปฐม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครปฐม ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครปฐม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากจังหวัดนครปฐมได้ประสบอุทกภัยน้ำมาตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2554 เป็นต้นมา ทำให้ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งสิ้น 7 อำเภอ 100 ตำบล 877 หมู่บ้าน และราษฎรได้รับความเดือดร้อน รวม 205,894 คน 68,083 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต จำนวน 18 ราย ซึ่งได้มอบเงินช่วยเหลือสำหรับหัวหน้าครอบครัวรายละ 50,000 บาท/บุคคลในครอบครัวรายละ 25,000 บาทเป็นค่าจัดการศพเรียบร้อยแล้ว
ส่วนด้านทรัพย์สิน มีบ้านเรือนเสียหายบางส่วน 25,369 หลัง และด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ ที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ ถนน 583 สาย สะพาน 43 แห่ง วัด 72 แห่ง โรงเรียน 18 แห่ง สถานที่ราชการ 33 แห่ง และโรงงาน 304 แห่ง รวมมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นประมาณ 983,756,110 บาท นอกจากนี้ยังมีด้านการเกษตร เสียหายสะสมจำนวน 171,457.50 ไร่ เป็นข้าว 104, 262.50 ไร่, พืชสวน 58,261 ไร่, พืชไร่ 7,934 ไร่ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 16,063 ราย และด้านประมง มีพื้นที่เกษตรกรได้รับความเสียหาย จำนวน 3,720 ราย เป็นพื้นที่ปลาทุกชนิดในบ่อดิน/นาข้าว กุ้ง จำนวน 26,875 ไร่ 9,324 ตารางเมตร ประมาณการมูลค่าความเสียหาย 917,054,518 บาท
นายนิมิต จันทน์วิมล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า สถานการณ์น้ำ ในวันนี้(23 พ.ย.)เมื่อเวลา 06.00 น.ปริมาณน้ำที่ไหลออกจากพื้นที่จังหวัดนครปฐมมีมากกว่าปริมาณน้ำไหลเข้าจังหวัด จำนวน 20.29 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน มีพื้นที่น้ำท่วมขัง 466,036 ไร่(พื้นที่น้ำท่วมลดลง 68,259 ไร่) ปริมาณน้ำท่วมสะสม 930.86 ล้าน ลบ.ม.(ค่าความลึกเฉลี่ย 99 เซนติเมตร)
โดยภาพรวมสถานการณ์น้ำลดลงอย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่ มวลน้ำก้อนใหญ่ที่มาจากคลองสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่น้ำท่วมในจังหวัดนครปฐม มีการตั้งเครื่องสูบน้ำ 28 เครื่อง ระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้วันละประมาณ 50 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน คาดว่าจะสามารถสูบน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนได้หไมดภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2554 และควบคุมการไหลของน้ำผ่านประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา ทำให้ปริมาณน้ำ ท่วมขังใน อ.พุทธมณฑล และบางส่วนของ อ.สามพราน ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องวันละประมาณ 2 เซนติเมตร ซึ่งก็ตรงกับรายงานของอำเภอพุทธมณฑล และอำเภอบางเลนว่าขณะนี้ระดับน้ำทรงตัวและเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องวันละประมาณ 1-3 เซนติเมตร
คาดว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งกรมชลประทานและกรมเจ้าท่าได้เดินเครื่องผลักดันน้ำและเรือผลักดันน้ำพร้อมกัน โดยเดินเครื่องผลักดันน้ำที่สะพานสำโรง-ลานตากฟ้า, สะพานรวมเมฆ และใช้เรือผลักดันน้ำ 6 จุด ได้แก่ ต.ทรงคะนอง 5 ลำ คลองลัดนางแท่น 2 ลำ สะพานโพธิ์แก้ว 3 ลำ คลองลัดท่าคา 4 ลำ สะพานวัดเทียนดัด 5 ลำ และสะพานวัดท่าไม้ 5 ลำ ในวันที่ 23 พ.ย.2554 จะเริ่มเดินเครื่องตลอด 24 ซม. เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำท่าจีนให้ไหลลงสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด
วันนี้ (23 พ.ย.54) นายนิมิต จันทน์วิมล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัยจังหวัดนครปฐม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครปฐม ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครปฐม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากจังหวัดนครปฐมได้ประสบอุทกภัยน้ำมาตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2554 เป็นต้นมา ทำให้ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งสิ้น 7 อำเภอ 100 ตำบล 877 หมู่บ้าน และราษฎรได้รับความเดือดร้อน รวม 205,894 คน 68,083 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต จำนวน 18 ราย ซึ่งได้มอบเงินช่วยเหลือสำหรับหัวหน้าครอบครัวรายละ 50,000 บาท/บุคคลในครอบครัวรายละ 25,000 บาทเป็นค่าจัดการศพเรียบร้อยแล้ว
ส่วนด้านทรัพย์สิน มีบ้านเรือนเสียหายบางส่วน 25,369 หลัง และด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ ที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ ถนน 583 สาย สะพาน 43 แห่ง วัด 72 แห่ง โรงเรียน 18 แห่ง สถานที่ราชการ 33 แห่ง และโรงงาน 304 แห่ง รวมมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นประมาณ 983,756,110 บาท นอกจากนี้ยังมีด้านการเกษตร เสียหายสะสมจำนวน 171,457.50 ไร่ เป็นข้าว 104, 262.50 ไร่, พืชสวน 58,261 ไร่, พืชไร่ 7,934 ไร่ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 16,063 ราย และด้านประมง มีพื้นที่เกษตรกรได้รับความเสียหาย จำนวน 3,720 ราย เป็นพื้นที่ปลาทุกชนิดในบ่อดิน/นาข้าว กุ้ง จำนวน 26,875 ไร่ 9,324 ตารางเมตร ประมาณการมูลค่าความเสียหาย 917,054,518 บาท
นายนิมิต จันทน์วิมล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า สถานการณ์น้ำ ในวันนี้(23 พ.ย.)เมื่อเวลา 06.00 น.ปริมาณน้ำที่ไหลออกจากพื้นที่จังหวัดนครปฐมมีมากกว่าปริมาณน้ำไหลเข้าจังหวัด จำนวน 20.29 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน มีพื้นที่น้ำท่วมขัง 466,036 ไร่(พื้นที่น้ำท่วมลดลง 68,259 ไร่) ปริมาณน้ำท่วมสะสม 930.86 ล้าน ลบ.ม.(ค่าความลึกเฉลี่ย 99 เซนติเมตร)
โดยภาพรวมสถานการณ์น้ำลดลงอย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่ มวลน้ำก้อนใหญ่ที่มาจากคลองสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่น้ำท่วมในจังหวัดนครปฐม มีการตั้งเครื่องสูบน้ำ 28 เครื่อง ระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้วันละประมาณ 50 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน คาดว่าจะสามารถสูบน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนได้หไมดภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2554 และควบคุมการไหลของน้ำผ่านประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา ทำให้ปริมาณน้ำ ท่วมขังใน อ.พุทธมณฑล และบางส่วนของ อ.สามพราน ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องวันละประมาณ 2 เซนติเมตร ซึ่งก็ตรงกับรายงานของอำเภอพุทธมณฑล และอำเภอบางเลนว่าขณะนี้ระดับน้ำทรงตัวและเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องวันละประมาณ 1-3 เซนติเมตร
คาดว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งกรมชลประทานและกรมเจ้าท่าได้เดินเครื่องผลักดันน้ำและเรือผลักดันน้ำพร้อมกัน โดยเดินเครื่องผลักดันน้ำที่สะพานสำโรง-ลานตากฟ้า, สะพานรวมเมฆ และใช้เรือผลักดันน้ำ 6 จุด ได้แก่ ต.ทรงคะนอง 5 ลำ คลองลัดนางแท่น 2 ลำ สะพานโพธิ์แก้ว 3 ลำ คลองลัดท่าคา 4 ลำ สะพานวัดเทียนดัด 5 ลำ และสะพานวัดท่าไม้ 5 ลำ ในวันที่ 23 พ.ย.2554 จะเริ่มเดินเครื่องตลอด 24 ซม. เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำท่าจีนให้ไหลลงสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด
