ชาวบ้านแหลมฉบัง-โรงโป๊ะค้านเลื่อนการขุดลอกร่องน้ำปากคลองบางละมุง

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านแหลมฉบัง-โรงโป๊ะ ค้านเลื่อนการขุดลอกร่องน้ำปากคลองบางละมุง ออกไปอีกประมาณ 1 ปี หลังท่าเรือแหลมฉบังมีโครงการขุดลอกร่องน้ำ หวั่นส่งกระทบต่อสัตว์เลี้ยงชายฝั่ง

วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ห้องประชุมเทศบาลนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรี นายธานี เกียรติพิพัฒนกุล รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง เป็นประธานการประชุมการขุดลอกร่องน้ำบริเวณปากคลองบางละมุง ชโดยมีร้อยตำรวจตรี มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านจากแหลมฉบัง และ ชาวบ้านโรงโป๊ะ บางละมุง ร่วมประชุมเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางขุดลอกคลองดังกล่าว

เดิมโครงการขุดลอกร่องน้ำปากคลองบางละมุง การท่าเรือแหลมฉบัง มีโครงการขุดลอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ถึงเดือนมีนาคม 2555 นี้ แต่ในช่วงเวลาดังกล่าว สัตว์เพาะเลี้ยงชายฝั่ง ประกอบด้วย หอยแมลงภู่ ปลากะพง ฯลฯ ที่ชาวบ้านเพาะเลี้ยงอยู่กำลังเจริญเติบโต และยังไม่สามารถจับขึ้นมาได้ จึงจำเป็นต้องให้เลื่อนช่วงเวลาในการขุดลอกคลองดังกล่าวไปก่อน เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อสัตว์เพาะเลี้ยงชายฝั่งอย่างแน่นอน

นายรังสรรค์ สมบูรณ์ ชาวประมงบางละมุง กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดี ที่การท่าเรือจะขุดลอกร่องน้ำ เพราะจะทำให้เรือประมงเข้าออกได้สะดวกขึ้น แต่ช่วงระยะเวลาที่การท่าเรือฯดำเนินการนั้น ส่งผลกระทบต่อสัตว์เพาะเลี้ยงของชาวบ้านอย่างแน่นอน ดังนั้น จึงควรจะต้องเลื่อนระยะเวลาดำเนินการดังกล่าวไปก่อน

“ในความเป็นจริง การท่าเรือแหลมฉบัง ทราบรายละเอียดของโครงการดังกล่าวมานานแล้ว ซึ่งควรจะต้องสอบถามหรือทำความเข้าใจกับประชาชนบริเวณดังกล่าวก่อน ปัญหาการเลื่อนโครงการก็คงไม่เกิดขึ้น เพราะชาวบ้านจะได้เตรียมความพร้อม โดยจะไม่ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งในช่วงนั้นไปก่อน แต่ครั้งนี้ทางการท่าเรือฯไม่ได้แจ้งหรือประสานข้อมูลดังกล่าว ทำให้โครงการนี้ต้องเลื่อนออกไปก่อน” นายรังสรรค์ กล่าว

ด้าน ร้อยตำรวจตรี มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า การเลื่อนโครงการดังกล่าวออกไปนั้น ไม่มีปัญหาหรือส่งผลกระทบต่องบประมาณโครงการแต่อย่างไร เนื่องจากชาวบ้านเห็นความเหมาะสมในช่วงระยะเวลาไหน การท่าเรือฯก็พร้อมจะดำเนินการตาม โดยขอให้ผ่านความคิดเห็นจากชาวบ้านก่อน

ขณะนี้ทางชาวบ้านมีมติให้เลื่อนไปในวันที่ 1 พ.ค.-31 ก.ค.2556 ซึ่งนานเกือบ 1 ปีนั้น ก็ไม่น่ามีปัญหาแต่อย่างไร โดยจะนำข้อมูลไปเสนอผู้บริหาร เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป โดยในช่วงระยะเวลาดังกล่าว อาจจะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อให้ขั้นตอนการดำเนินการเป็นไปตามนโยบายของทุกๆ ฝ่ายด้วย