บุรีรัมย์ - สมาชิก “อบต.” นำชาวบ้าน 8 หมู่บ้าน ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ บุรีรัมย์ ร่วม 100 คนม็อบปิดถนนสาย 24 “โชคชัย-เดชอุดม”ขับไล่ “นายก อบต.” กล่าวหาทุจริตงบฯก่อสร้างถนนโครงการไทยเข้มแข็ง และบริหารงานไร้คุณภาพ ขู่หากจังหวัดไม่มาเจรจารับทราบปัญหาจะจุดไฟเผายางรถยนต์ และปิดถนนยืดเยื้อ ล่าสุด ท้องถิ่นจังหวัดรุดเจรจา รับข้อเสนอให้นายก อบต.ลาพักผ่อน และตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงพร้อมย้ายท้องถิ่นอำเภอหนองกี่ ม็อบจึงสลายตัวหลังปิดถนนกว่า 10 ชม.
วันนี้ ( 22 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิก อบต.พร้อมตัวแทนชาวบ้าน 8 หมู่บ้าน ในเขต ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ร่วม 100 คน รวมตัวชุมนุมประท้วงหน้าองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุ่งกระเต็น เพื่อขับไล่ นายสมหมาย ขำเอนก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งกระเต็น
ชาวบ้านที่มาชุมนุม กล่าวหาว่า นายสมหมาย มีพฤติกรรมทุจริตเงินงบประมาณหลายโครงการ เช่น การจัดซื้อจัดจ้างการก่อสร้างถนนในโครงการไทยเข้มแข็ง จำนวน 4 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างถนนในหมู่บ้าน ม.1, 6, 8 และ ม.9 แต่กลับมีการโยกย้ายการก่อสร้างบางโครงการโดยไม่โปร่งใส
เรื่องดังกล่าวชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังทางอำเภอให้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่เมื่อผลสอบออกมาปรากฏว่าทางอำเภอกลับชี้ไม่ผิด ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ จึงได้พากันออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่ นายสมหมาย ให้ลาออกออกจากตำแหน่ง
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังกล่าวหาว่า นายสมหมาย นายก อบต.บริหารงานไม่มีคุณภาพ ไม่มีการพัฒนาหมู่บ้านตามที่รับปากไว้
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้พากันเคลื่อนขบวนออกไปปิดถนนทางหลวงหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม บริเวณ กม.ที่ 50 ปากทางเข้าหมู่บ้าน บ.สระขุด ต.ทุ่งกระเต็น โดยชาวบ้านที่มาชุมนุมได้นำรถปิกอัพ และ ยางรถยนต์ มาปิดถนนสองฝั่ง ทั้งขาเข้าและขาออกของถนนสายโชคชัย-เดชอุดม ทำให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนผ่านไปมาเส้นทางดังกล่าวต้องสัญจรไปมาด้วยความลำบาก
พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เข้ามาเจรจารับทราบปัญหาและความต้องการของชาวบ้าน หากไม่มาชาวบ้านก็จุดไฟเผายางรถยนต์และปิดถนนยืดเยื้อ จนกว่าจะได้รับคำตอบเป็นที่น่าพอใจ หรือ นายก อบต.ทุ่งกระเต็น ลาออก
นายอำพล แก้วทองหล่อ สมาชิก อบต.ม.6 แกนนำผู้ชุมนุม กล่าวว่า ตั้งแต่ นายสมหมาย เข้ามาดำรงตำแหน่งนายก อบต.ทุ่งกระเต็น ก็มีพฤติกรรมทุจริตบริหารงานไม่โปร่งใส ทั้งไม่มีการพัฒนาหมู่บ้าน ร้องเรียนไปทางอำเภอก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้รวมตัวกันออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่ นายสมหมาย ให้ลาออกจากตำแหน่ง แต่หากการร้องเรียนครั้งนี้ไม่เป็นผล ชาวบ้านก็จะรวมตัวกันเคลื่อนไหวร้องเรียนจนถึงที่สุด
ต่อมา นายชาคร กัญจวัตตะ นายอำเภอหนองกี่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิศิษฏ์ศักดิ์ อภัยวงค์ ผกก.สภ.หนองกี่ ได้มาเจรจากับทางกลุ่มผู้ชุมนุมขอเปิดถนนเส้นทางจราจรตามปกติ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันจะขอเจรจากับผู้ว่าราชการจังหวัด และตัวแทนจากทางจังหวัด เท่านั้น ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมได้ผลัดเปลี่ยนกันกล่าวปราศรัยโจมตีการทำงานของนายก อบต.ทุ่งกระเต็น และผลการสอบสวนของทางอำเภอหนองกี่ ไม่ให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน อีกทั้งยังขอให้ย้าย นางนณัชชา ชาสมบัติ ท้องถิ่นอำเภอหนองกี่ ออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งล่าสุดจนถึงขณะนี้ จังหวัดบุรีรัมย์ยังไม่ส่งใครมาเจรจากับทางกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน นายวีระชัย ประยูรเมธา ท้องถิ่นจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เดินทางมาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ปลดนายก อบต.ออกจากตำแหน่ง ขอให้ย้าย นายปิยะวัฒน์ ปิตุรงค์ เจ้าพนักงานธุรการ 4 อบต.ทุ่งกระเต็น และ นางนณัชชา ชาสมบัติ ท้องถิ่นอำเภอหนองกี่ ออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งการเจรจาเป็นไปด้วยความตึงเครียด ท่ามกลางเสียงโห่ร้องกดดันจากกลุ่มผู้ชุมนุมตลอดเวลา
ด้าน นายวีระชัย ท้องถิ่นจังหวัด รับปากว่า จะดำเนินการย้ายท้องถิ่นอำเภอหนองกี่ และเจ้าพนักงานธุรการ อบต.ทุ่งกระเต็น ไปช่วยราชที่สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด เป็นเวลา 6 เดือน ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ปลดนายก อบต.ออกจากตำแหน่งนั้น ตนเองไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการได้ เพียงรับปากว่าจะตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามระเบียบขั้นตอนเท่านั้น พร้อมทั้งจะขอให้นายก อบต.ลาพักผ่อนเป็นเวลา 10 วัน ในช่วงที่มีการตั้งกรรมการสอบ
ทางกลุ่มผู้ชุมนุมพอใจผลการเจรจาในเบื้องต้น จึงยอมเปิดถนน และสลายตัวไปในเวลา 17.30 น.ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งการปิดถนนยืดเยื้อยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน ต้องใช้เส้นเลี่ยงเข้าหมู่บ้าน
ขณะที่ นายสมหมาย ขำเอนก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งกระเต็นที่ถูกประท้วงขับไล่ กล่าวว่า พร้อมที่จะลาพักผ่อนไม่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่ อบต.ไปจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ตามที่ท้องถิ่นจังหวัดเสนอ เพื่อให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนตามขั้นตอน แต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้กระทำทุจริตตามที่ชาวบ้านกล่าวหา ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านก็ได้ร้องเรียนไปยังทางแล้ว และคณะกรรมการฯระดับอำเภอได้มีการสอบ และชี้แล้วว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิด และปลดออกจากตำแหน่งก่อนหน้านี้แล้ว
