ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักโทษหนีน้ำจากเรือนจำปทุมธานี-อยุธยา ยกพวกตะลุมบอนนักโทษในเรือนจำกลางตราด เหตุไม่พอใจเรื่องอาบน้ำ มีผู้เสียชีวิต 4 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส 16 คน เจ็บเล็กน้อยอีกเพียบ
เมื่อเวลา 15 .00 น. วันที่ 18 พ.ย. เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดตราด ได้โทรศัพท์แจ้งขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด และทหารนาวิกโยธินตราด เพื่อระงับเหตุทะเลาะวิวาทของนักโทษในเรือนจำจังหวัดตราด โดยพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุบานปลาย ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุกสถานีตำรวจในพื้นที่จังหวัดตราด และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน หน่วยป้องกันปราบปรามพิเศษ จำนวน 20 นาย พร้อมด้วยทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินอีก 40 นาย ได้ตรึงกำลังบริเวณโดยรอบ เรือนจำจังหวัดตราด
ขณะที่บริเวณภายในเรือนจำจังหวัดตราด นายมณฑล ศรีกระจิบ ผู้บัญชาการเรือนจำ พร้อมผู้คุมกว่า 20 นาย ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์แต่ยังไม่เข้าไปพื้นที่เกิดเหตุ เนื่องจากยังมีกำลังไม่มากพอ ซึ่งพบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ที่บริเวณเรือนนอนนักโทษด้านใน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน และทหารนาวิกโยธินตราด รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยตราดเดินทางไปถึงจึงเข้าไประงับเหตุ และเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง จึงเข้าเคลียร์พื้นที่ ซึ่งก็พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยลำเลียงส่งโรงพยาบาลตราด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีกประมาณ 50-60 คน ได้รับการปฐมพยาบาลภายในเรือนจำ
นักโทษเรือนจำจังหวัดตราดรายหนึ่ง เล่าว่า ช่วงที่นักโทษภายในเรือนจำจังหวัดตราดอาบน้ำ นักโทษจากจังหวัดปทุมธานี ซึ่งได้เข้าอาบน้ำด้วยกันเกิดการเข้าใจผิดผู้ต้องขังจังหวัดตราดที่ไม่ให้ร่วมอาบน้ำ ผู้ต้องขังจังหวัดปทุมธานีจึงรวมตัวกันกว่า 180 คน เข้ารุมทำร้ายผู้ต้องขังจังหวัดตราดด้วยการใช้ไม้และเหล็ก รวมทั้งนำเหล็กขูดชาร์ปแทงจนได้รับบาดเจ็บ
นายมณฑล ศรีกระจิบ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตราด กล่าวว่า สถานการณ์ความวุ่นวาย ได้ยุติลงเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการทะเลาะวิวาท จำนวน 16 คน และทราบว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน โดยผู้ได้รับบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาทในครั้งนี้มีประมาณ 50-60 คน
สาเหตุเกิดจากนักโทษจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ (ปทุมธานีและอยุธยา) เกิดความขัดแย้งกับผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดตราดเรื่องการอาบน้ำ ทำให้นักโทษจากจังหวัดปทุมธานี กลุ่มหัวโจกจำนวน 40 คนที่เป็นแกนนำยกพวกเข้าตะลุมบอนกับผู้ต้องขังจังหวัดตราดเป็นเวลานานกว่า 30 นาที จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุว่าได้ว่าเป็นนักโทษจากฝ่ายใด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังถูกควบคุมอยู่ภายในเรือนจำ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสภาพหัวแตก มีบาดแผลตามร่างกาย และบริเวณอื่น ๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการปฐมพยาบาลของทีมแพทย์
“จากปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการมายัง เรือนจำจังหวัดตราดให้แก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังที่เป็นหัวโจกจำนวน 40 คนไปยังเรือนจำในจังหวัดภาคตะวันออก 3 แห่งประกอบด้วย จังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี และ จันทบุรี โดยเร็วที่สุด ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อโยกย้ายออกจากเรือนจำจังหวัดตราดอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันจะเพิ่มมาตรการอย่างเข้มงวดและแยกผู้ต้องขังที่มาจากปทุมธานี อยุธยาและจังหวัดตราด ให้อยู่คนละแดนกันเพื่อไม่ให้ปะปนหรือรวมตัวกันสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นอีก” นายมณฑล กล่าว
ทั้งนี้ วันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา เรือนจำจังหวัดตราดได้รับนักโทษจากจังหวัดปทุมธานีจำนวน 180 คน และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 120 คน ขณะที่นักโทษที่จังหวัดตราดมีจำนวน 1,162 คน รวมมีนักโทษที่อยู่ในจังหวัดตราดทั้งสิ้น 1,462 คน ซึ่งสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำในแต่ละอาคารนอน จากเดิมที่แออัดอยู่แล้วก็เพิ่มความแออัดมากขึ้นโดยเฉพาะเวลานอนไหล่จะเกยกัน ซี่งอาจจะเป็นสาเหตุของความไม่พอใจและเกิดความเครียดเกิดขึ้นจนทำให้เป็นสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว
เมื่อเวลา 15 .00 น. วันที่ 18 พ.ย. เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดตราด ได้โทรศัพท์แจ้งขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด และทหารนาวิกโยธินตราด เพื่อระงับเหตุทะเลาะวิวาทของนักโทษในเรือนจำจังหวัดตราด โดยพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุบานปลาย ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุกสถานีตำรวจในพื้นที่จังหวัดตราด และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน หน่วยป้องกันปราบปรามพิเศษ จำนวน 20 นาย พร้อมด้วยทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินอีก 40 นาย ได้ตรึงกำลังบริเวณโดยรอบ เรือนจำจังหวัดตราด
ขณะที่บริเวณภายในเรือนจำจังหวัดตราด นายมณฑล ศรีกระจิบ ผู้บัญชาการเรือนจำ พร้อมผู้คุมกว่า 20 นาย ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์แต่ยังไม่เข้าไปพื้นที่เกิดเหตุ เนื่องจากยังมีกำลังไม่มากพอ ซึ่งพบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ที่บริเวณเรือนนอนนักโทษด้านใน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน และทหารนาวิกโยธินตราด รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยตราดเดินทางไปถึงจึงเข้าไประงับเหตุ และเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง จึงเข้าเคลียร์พื้นที่ ซึ่งก็พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยลำเลียงส่งโรงพยาบาลตราด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีกประมาณ 50-60 คน ได้รับการปฐมพยาบาลภายในเรือนจำ
นักโทษเรือนจำจังหวัดตราดรายหนึ่ง เล่าว่า ช่วงที่นักโทษภายในเรือนจำจังหวัดตราดอาบน้ำ นักโทษจากจังหวัดปทุมธานี ซึ่งได้เข้าอาบน้ำด้วยกันเกิดการเข้าใจผิดผู้ต้องขังจังหวัดตราดที่ไม่ให้ร่วมอาบน้ำ ผู้ต้องขังจังหวัดปทุมธานีจึงรวมตัวกันกว่า 180 คน เข้ารุมทำร้ายผู้ต้องขังจังหวัดตราดด้วยการใช้ไม้และเหล็ก รวมทั้งนำเหล็กขูดชาร์ปแทงจนได้รับบาดเจ็บ
นายมณฑล ศรีกระจิบ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตราด กล่าวว่า สถานการณ์ความวุ่นวาย ได้ยุติลงเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการทะเลาะวิวาท จำนวน 16 คน และทราบว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน โดยผู้ได้รับบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาทในครั้งนี้มีประมาณ 50-60 คน
สาเหตุเกิดจากนักโทษจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ (ปทุมธานีและอยุธยา) เกิดความขัดแย้งกับผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดตราดเรื่องการอาบน้ำ ทำให้นักโทษจากจังหวัดปทุมธานี กลุ่มหัวโจกจำนวน 40 คนที่เป็นแกนนำยกพวกเข้าตะลุมบอนกับผู้ต้องขังจังหวัดตราดเป็นเวลานานกว่า 30 นาที จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุว่าได้ว่าเป็นนักโทษจากฝ่ายใด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังถูกควบคุมอยู่ภายในเรือนจำ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสภาพหัวแตก มีบาดแผลตามร่างกาย และบริเวณอื่น ๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการปฐมพยาบาลของทีมแพทย์
“จากปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการมายัง เรือนจำจังหวัดตราดให้แก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังที่เป็นหัวโจกจำนวน 40 คนไปยังเรือนจำในจังหวัดภาคตะวันออก 3 แห่งประกอบด้วย จังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี และ จันทบุรี โดยเร็วที่สุด ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อโยกย้ายออกจากเรือนจำจังหวัดตราดอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันจะเพิ่มมาตรการอย่างเข้มงวดและแยกผู้ต้องขังที่มาจากปทุมธานี อยุธยาและจังหวัดตราด ให้อยู่คนละแดนกันเพื่อไม่ให้ปะปนหรือรวมตัวกันสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นอีก” นายมณฑล กล่าว
ทั้งนี้ วันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา เรือนจำจังหวัดตราดได้รับนักโทษจากจังหวัดปทุมธานีจำนวน 180 คน และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 120 คน ขณะที่นักโทษที่จังหวัดตราดมีจำนวน 1,162 คน รวมมีนักโทษที่อยู่ในจังหวัดตราดทั้งสิ้น 1,462 คน ซึ่งสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำในแต่ละอาคารนอน จากเดิมที่แออัดอยู่แล้วก็เพิ่มความแออัดมากขึ้นโดยเฉพาะเวลานอนไหล่จะเกยกัน ซี่งอาจจะเป็นสาเหตุของความไม่พอใจและเกิดความเครียดเกิดขึ้นจนทำให้เป็นสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว