xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ภาค 5 รวบ “แก๊งสันใหญ่” ฆ่าตัดตอน-ฝังดินพ่อค้ายาบ้าดอยสะเก็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตร.ภาค 5 รวบแก๊งสันใหญ่ หลังก่อเหตุฆ่าพ่อค้ายาบ้าก่อนฝังอำพรางคดี พร้อมรวบ 2 หนุ่มขนยาบ้า 4,000 เม็ด “สุเทพ” เผยขบวนการยาบ้ายังมีการฆ่าตัดตอน-เล็งสางคดีขยายผล ส่วนการจับยาบ้าไม่เน้นจับเยอะแต่เน้นสกัดกั้นห้ามยาบ้าผ่านตั้งแต่ชายแดน ถ้าหลุดมาได้ห้ามไปไกลกว่าด่านแม่พริก หากพบลงส่วนกลางได้ สภ.ต้นทางต้องรับผิดชอบ

วันนี้ (16 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา รรท.ผบช.ภ.5 เป็นประธานในการแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดีฆ่านายสาโรจน์ หรืออาเหว่ย แซ่หยาง และคดีจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด

คดีฆ่านายสาโรจน์ หรืออาเหว่ย แซ่หยางนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย ประกอบด้วยนายอนิวรรตน์ หรือสัน โนคำ นายกานต์ หรือแต้ม กันธิยะ นายวสันต์หรือสันน้อย ใชยยา นายมนูญ หรือต๋อง ใบบอกบุญ และนายชัชชัย หรือโหน่ง สายแผ่เยือง

พร้อมของกลางอาวุธปืนยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน สีดำ ขนาด .38 ซึ่งเป็นของนายอนิวรรตน์ และอาวุธปืนยี่ห้อ SH สีดำ ขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นของนายสาโรจน์ หลังจากสืบทราบว่านายอนิวรรตน์และพวกได้สังหารนายสาโรจน์และนำศพไปฝังไว้ที่บริเวณป่าละเมาะข้างทาง หมู่ที่ 9 ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เพื่ออำพรางคดี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นายสาโรจน์ผู้ตายเป็นสมาชิกของขบวนการค้ายาบ้า โดยจะเป็นผู้นำยาบ้าจากหมู่บ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว มาส่งให้กับแก๊งสันใหญ่ซึ่งมีนายอนิวรรตน์เป็นหัวหน้ากลุ่ม

ต่อมาแก๊งดังกล่าวติดค้างค่ายาบ้านายสาโรจน์จำนวน 1,200,000 บาท นายสาโรจน์จึงพยายามทวงถามเงินพร้อมทั้งข่มขู่ว่าจะเปิดเผยเรื่องของแก๊งดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ นายอนิวรรตน์และพวกจึงวางแผนฆ่าตัดตอน โดยใช้อาวุธจี้บังคับนำตัวนายสาโรจน์จากบ้านเช้าใน ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย มายังป่าละเมาะใกล้เขื่อนแม่กวง อ.ดอยสะเก็ด ก่อนจะใช้จอบตีศีรษะนายสาโรจน์จนเสียชีวิตแล้วนำศพไปฝัง

ทั้งนี้ ภายหลังการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมนายวสันต์ หรือสันน้อย ใชยยาได้เป็นคนแรก ก่อนที่นายวสันต์จะให้การว่าร่วมกับพวก รวม 6 คนก่อเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารวม 5 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอยสะเก็ดเพื่อดำเนินคดี ส่วนนายประสิทธิ์ ยศใจสุรินทร์ ผู้ต้องหาอีกรายหนึ่งที่ยังหลบหนีการจับกุมอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ส่วนคดีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้าจำนรวน 4,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนในเขตภาคเหนือตอนบนสามารถจับกุมนายขวัญชัย สุยะวา และนายธรรมศักดิ์ บุญเพิ่มพูน พร้อมยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีน้ำเงิน เลขทะเบียน บล 5748 ได้ที่บริเวณถนนสายเลียบคลองชลประทาน ใกล้แขวงการทางจังหวัดเชียงใหม่ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

ในระหว่างการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองพยายามขับรถหลบหนี เมื่อถูกเจ้าหน้าทีเรียกให้หยุดรถเพื่อขอทำการตรวจค้น รวมทั้งได้โดยยาบ้าที่นำมาทิ้งลงข้างทาง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดรถของผู้ต้องและตรวจยึดยาบ้าทั้งหมดไว้ได้

พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา รรท.ผบช.ภ.5 กล่าวถึงการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคดีว่า กรณีแรกนั้นแสดงให้เห็นว่าการฆ่าตัดตอนกันเองในกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดยังคงมีอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนขยายผลจนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้

จากการสอบสวนพบว่าผู้ตายและแก๊งที่ลงมือสังหารเป็นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในกลุ่มเชียงดาว ดอยสะเก็ดและสันทราย แต่มีปัญหาขัดแย้งกันเรื่องค่ายาบ้าและมีการข่มขู่กัน ทำให้เกิดการฆ่าตัดตอนกันขึ้น ส่วนการจับกุมผู้ค้ายาบ้านั้นเป็นไปตามนโยบายของตำรวจภูธรภาค 5 ในการปราบปรามยาเสพติดที่จะเน้นหนักเรื่องการสกัดกั้นมากยิ่งขึ้น

พล.ต.ต.สุเทพกล่าวต่อไปว่า ตนได้มอบนโยบายให้แก่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 ทั้งหมดว่า จะต้องเน้นหนักในเรื่องการสกัดกั้นยาเสพติด โดยจะแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือจังหวัดที่อยู่ติดพื้นที่ชายแดน ได้แก่เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน จะต้องดำเนินการสกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศได้

ส่วนที่สอง กรณีที่ยาเสพติดสามารถผ่านเข้ามาจากชายแดนได้ จะต้องสกัดกั้นไม่ให้เลยออกไปจากจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงอย่างลำปาง ลำพูนหรือแพร่ได้

ขณะที่ส่วนที่สาม ได้กำหนดให้ด่านแม่พริกเป็นจุดตรวจจุดสกัดสุดท้ายในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งหากพบว่ามีการจับกุมยาเสพติดจำนวนมากในพื้นที่ต่อเนื่องลงไป และมีการระบุว่านำยาเสพติดมาจากพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 5 สถานีตำรวจภูธรพื้นที่รับผิดชอบ ที่ถูกระบุว่าเป็นที่มาของยาเสพติดจะต้องลงไปสอบสวนคดีร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่มีการจับกุม รวมทั้งต้องมีการพิจารณาด้วยว่าเหตุใดจึงมียาเสพติดหลุดรอดออกจากพื้นที่ได้

ต่อจากนี้ตำรวจภูธรภาค 5 จะไม่จับยาเสพติดคราวละมากๆ เพราะการจับยาเสพติดจำนวนมากไม่ได้หมายความว่ามีประสิทธิภาพ แต่จะเน้นหนักในการสกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดสามารถแพร่ขยายหรือส่งเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลางได้

กำลังโหลดความคิดเห็น