กาฬสินธุ์ - นำร่องช่วงพิธีพระราชทานเพลิงศพพระธรรมวงศาจารย์ "สุข สุขณมหาเถระ" อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดกรุของเก่าให้ประชาชนเที่ยวชมและศึกษามรดกล้ำค่าหายากของสะสมนับพันรายการ ด้านผู้ว่าฯเล็งเปิดเป็นจุดเชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดหวังดึงนักท่องเที่ยวทุกวัยช่วง “ไฮซีซั่น”
วันนี้ (15 พ.ย.) ที่วัดกลางพระอารามหลวง นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของเก่าของพระธรรมวงศาจารย์ หรือ หลวงปู่สุข อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ และอดีตเจ้าอาวาสวัดกลางพระอารามหลวง ที่ได้ละสังขารด้วยอายุ 97 ปี 77 พรรษา เมื่อวันที่ 3 ก.พ.54 เมื่อภายหลังที่ทางคณะญาติและลูกศิษย์ได้เปิดหอของเก่าให้ผู้สื่อข่าวได้พิสูจน์และชมและต่างตื่นตะลึงในความสามารถของพระธรรมวงศาจารย์ ที่ได้ทุ่มเทเก็บสิ่งของมีค่านับพันรายการเพื่อทิ้งไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษาประวัติความเป็นมาของบรรพบุรุษที่มีมาแต่ช้านาน
ทั้งนี้ คณะญาติและลูกศิษย์ได้นำผู้ว่าฯ เข้าชมบริเวณพิพิธภัณฑ์ทั้ง 2 ชั้น ซึ่งข้าวของมีค่าไม่ว่า จะเป็นพระพุทธรูปโบราณ หีบโบราณ เหรียญเงินโบราณของประเทศไทยและต่างประเทศ ภาพถ่ายเล่าเรื่องราวอดีต- ปัจจุบันของคนกาฬสินธุ์ซึ่งเป็นที่สนใจของผู้เข้าชมเป็นอย่างมาก ซึ่งบรรดาของเก่าที่สะสมไว้โดยพระธรรมวงศาจารย์ ได้ถูกเก็บรักษามาไว้อย่างดี
รวมถึงการเรียงลำดับตามอายุเวลาของสิ่งของแต่ละชิ้น และป้ายบอกรายละเอียดซึ่งเป็นลายมือของพระธรรมวงศาจารย์ที่เขียนกำกับไว้กับสิ่งของทุกชิ้นอย่างชัดเจนเรียงทำให้ผู้ที่เข้ามาได้ ชมได้รู้ถึงที่ไปที่มาของสิ่งของแต่ละชิ้น
โดยเฉพาะโถน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ที่ถูกเก็บไว้ภายในหอพิพิธภัณฑ์มานานกว่า 17 ปี ซึ่งผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ ได้เข้าไปชม ต้องตะลึงกับความมหัศจรรย์เช่นกันเพราะระดับน้ำยังอยู่เกือบเต็มโถ และสภาพก็เหมือนกับมีการใช้การเป็นปกติ
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์ของเก่าของหลวงปู่สุข นับว่ามีคุณค่าเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ได้หารือกับคณะญาติและลูกศิษย์แล้วเห็นตรงกันว่าจะเปิดนำร่องให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงพิธีพระราชทานเพลิงศพ 25-28 พ.ย.นี้ก่อน ส่วนที่จะเปิดเป็นการถาวรนั้นต้องให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการดูแลเพราะยังมีสิ่งของบางอย่างที่ยังไม่ได้ถูกเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนพิพิธภัณฑ์ของหลวงปู่สุขน่าจะทำให้คนมาเที่ยวกาฬสินธุ์เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่น โดยพิพิธภัณฑ์ของหลวงปู่สุขนั้นเหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยที่จะเข้าไปเที่ยวชม
แต่สิ่งที่ทำให้มหัศจรรย์คือน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ในโถที่ถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มานานกว่า 17 ปี ไม่น่าเชื่อว่าน้ำมนต์ยังอยู่ระดับน้ำถ้ามองด้วยคาเปล่าแล้วน่าจะอยู่เท่าเดิมเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ใจที่ได้พบเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้แล้วยังมีใบลานทั้งที่เป็นคาถา บทสวดและบันทึกอีกรายพันผูกนับว่าเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ๆ ทั้งนี้ก็อยากจะเชิญชวนประชาชนทั้งที่อยู่ใน จ.กาฬสินธุ์ และจังหวัดต่าง ๆ ได้เข้ามาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์หลวงปู่สุขที่รับประกันได้เลยว่าคุ้มค่ามากถ้าได้มาเที่ยวชม
สำหรับพระธรรมวงศาจารย์ หรือหลวงปู่สุข หรือ สุข สุขณมหาเถระ เป็นพระผู้ใหญ่ที่ประชาชนชาวกาฬสินธุ์ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก โดยได้ละสังขารในวันที่ 3 ก.พ. 54 หลังจากหลวงตามหาบัวเพียง 1 สัปดาห์ และมีอายุพรรษาเท่ากันกับหลวงตามหาบัวคือ 77 พรรษา ซึ่งในความสามารถนั้นพระธรรมวงศาจารย์ยังเป็นนักเขียน-แต่งหนังสือจำนวนมาก
โดยเฉพาะคู่มือพ่อบ้าน ซึ่งมีเนื้อหาสำหรับผู้นำสังคมและหัวหน้าครอบครัว ศาส์นวัดกลางเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชาวพุทธที่ดี หนังสือหลักการแต่งกาพย์ กลอน หนังสือ อุบาทว์ 8 ประการที่ถอดมาจากใบลานอายุกว่า 500 ปี ซึ่งเดิมเป็นภาษลาวโบราณ และหนังสือบาลีไวยยากรณ์ ที่ใช้ในสำนักเรียนวัดกลางกาฬสินธุ์ และยังมีหนังสือเบ็ดเตล็ดอีกหลายสิบเล่มรวมถึงบทผญาที่ที่เล่าขานความอุดมสมบูรณ์กาฬสินธุ์ ซึ่งคนกาฬสินธุ์ได้ท่องจำมานานหลายสิบปี