ศูนย์ข่าวศรีราชา - ถนนหนีน้ำท่วมวิกฤตหนักสาย 314 ต่อเนื่อง 304 สุดอันตราย หลังเกิดอุบัติเหตุต่อเนื่องรายวัน เผยมีทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ชาวบ้านบ่นผู้ใช้เส้นทางขับรถเร็วไร้มารยาท ขณะสิงห์มอเตอร์ไซด์ในพื้นที่ยังมักง่ายขับย้อนศร ขณะที่เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรเผย ต้นตออุบัติเหตุเกิดจากความใจร้อนของผู้ใช้เส้นทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ถนนสาย 314 ต่อเนื่องถนนสาย 304 ถูกใช้เป็นเส้นทางสายสำคัญในการเลี่ยงภาวะน้ำท่วมของชาวกรุงเทพฯ ซึ่งมักเลือกใช้เส้นทางสายนี้ในการสัญจรผ่านเข้าออกเมืองหลวง ทั้งยังเป็นเส้นทางมุ่งหน้าไปได้ทั้งทางภาคเหนือและอีสาน จึงถูกจัดเป็นถนนสายอันตรายมากที่สุดในประเทศในช่วงเวลานี้
หลังจากพบว่ามีสถิติของการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยตลอดเส้นทางแต่ละวันจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 10 ครั้งทั้งอุบัติเหตุขนาดใหญ่ที่พุ่งชนท้ายกันแบบโดมิโน และอุบัติเหตุเฉี่ยวชนขนาดเล็ก จนทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจรและความสูญเสียทั้งในชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก
จากการสอบถาม ด.ต.นันท์ ศิริวัน ผู้บังคับหมู่งานจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณทางแยกสัญญาณไฟนาคู เผยว่า สาเหตุของอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความใจร้อนของผู้ใช้เส้นทาง เนื่องจากขณะนี้ในเส้นทางดังกล่าวมีรถเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้การจราจรหนาแน่น แต่ผู้ที่ใช้เส้นทางกลับเร่งรีบและใช้ความเร็วสูง โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ซึ่งอุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นจะเป็นแบบพุ่งชนท้ายแบบต่อเนื่องหลายคัน ทำให้มีทั้งการสูญเสียทรัพย์สิน และเสียชีวิต ทำให้ผู้บังคับบัญชาต้องสั่งการให้เปิดสัญญาณไฟจราจรในแต่ละทางแยกสัญญาณไฟให้สัมพันธ์กันในทุกทางแยก รวมทั้งในเขตพื้นที่ข้างเคียง เพื่อให้รถลื่นไหลตลอดเส้นทาง
“จึงอยากฝากไปยังประชาชนผู้ใช้เส้นทางว่าหากจะเข้ามาใช้เส้นทางสายนี้อย่างปลอดภัยโดยที่ไม่สูญเสีย ทั้งทรัพย์สินและทางร่างกายนั้น ควรที่จะใจเย็น อย่าขับรถอย่างรีบร้อน” ด.ต.นันท์ กล่าว
ขณะที่นายประจวบ เล็กขำ อายุ 39 ปี ผู้ประกอบการร้านซ่อมหม้อน้ำรถยนต์บริเวณเชิงสะพานใกล้สามแยกสัญญาณไฟบางพระ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า หลังจากมีรถหนีน้ำท่วมเข้ามาใช้เส้นทางเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดอุบัติเหตุในเส้นทาง วันละหลาย 10 ราย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ และบริษัทประกันภัยที่จะเข้ามาเคลียร์พื้นที่เพื่อนำรถออกจากจุดเกิดเหตุก็ล่าช้าเนื่องจาก เจ้าหน้าที่และประกันฯเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ยากเพราะรถติดอยู่เต็มถนน โดยถนนสายนี้ถือว่าอันตรายมากที่สุด โดยเฉพาะบริเวณสามแยกนาคู
ส่วนต้นตอที่ทำให้เกิด ส่วนหนึ่งมาจากรถตู้โดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ ที่มักจะขับแบบไม่มีมารยาท ฝ่าสัญญาณไฟจราจร และขับเร็วปราดแซงซ้ายแซงขวา อีกทั้งยังมีแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่ขับย้อนศรสวนเลนอีกด้วย ขณะที่บริเวณนี้จะมีคนข้ามถนนจำนวนมาก จึงน่าจะมีสะพานลอยคนข้าม