พระนครศรีอยุธยา - ถนนหลายสายขึ้นเหนือ-อีสาน-อ่างทอง-สุพรรณฯ ที่ต้องผ่านพระนครศรีอยุธยา น้ำยังท่วมสูงกว่า 40-50 ซม.แม้ปริมาณน้ำในกรุงเก่าจะลดลงแล้วก็ตาม ยังทำให้รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ด้านผู้ว่าฯกรุงเก่า รณรงค์พนักงานคนงานและประชาชนทำความสะอาดเมืองบางพื้นที่หลังน้ำเริ่มลด
วันนี้ (3 พ.ย.) แม้ว่าน้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะลดระดับลง ถนนบางเส้นน้ำเริ่มแห้งจนรถสามารถวิ่งได้ตามปกติ แต่ยังมีถนนอีกหลายสายปริมาณน้ำยังสูงอยู่ เช่น ถนนโรจนะ ตั้งแต่ลงสะพานต่างระดับมุ่งหน้า อ.วังน้อย ระดับน้ำยังสูงประมาณ 30-40 ซม.และเกินกว่า 50 ซม.เป็นบางช่วงรถเล็กยังไม่สามารถวิ่งผ่านได้
ส่วนถนนสาย 356 ตัด 347 เลี่ยงเมืองจากสายเอเชีย ไป จ.สุพรรณบุรี อ่างทอง และ จ.นครสวรรค์ น้ำยังคงสูงอยู่ 40-50 ซม.จนทำให้รถบรรทุกสิบล้อเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างถนน ตรงก่อนขึ้นสะพาน 356
ส่วนถนนสายในอยุธยา-บางปะอิน ตลอดสายรถยังวิ่งผ่านไม่ได้ และถนนสายหลักวังน้อย-มุ่งหน้าสระบุรี ปริมาณน้ำก็ยังสูงอยู่ ชาวบ้านต้องอาศัยรถสิบล้อที่มาวิ่งรับจ้างส่งคนๆ ละ 20 บาท การเดินทางยังคงยากลำบากเพราะเมื่อระดับน้ำลดเรือไม่สามารถวิ่งได้ และรถก็ยังเข้าไม่ได้ ทำให้ต้องเดินทางลุยน้ำหลายกิโลเมตร เส้นทางถนนสายรองเกือบทุกสายยังใช้งานไม่ได้
ผู้ว่าฯานำท้องถิ่นทำความสะอาดเมืองหลังน้ำเริ่มลด
วันเดียวกัน นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา และ นายณรงค์ ด่านชัยวิโรจน์ นายกเทศมนตรีเมืองอโยธยา ร่วมกันเปิดการรณรงค์ทำความสะอาดทางเข้าเมืองครั้งใหญ่ หรือบิ๊กคลีนนิงเดย์ ที่บริเวณวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม ซึ่งเป็นทางเข้าเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากบริเวณดังกล่าวและบริเวณโดยรอบ ซึ่งเป็นย่านชุมชนและย่านเศรษฐกิจของเทศบาลเมืองอโยธยา ถนนโรจนะ น้ำได้ลดลงไปแล้ว จึงได้รณรงค์พนักงานคนงานและประชาชนจำนวน 200 คน ช่วยกันทำความสะอาด ด้วยการเทสารคอรีนชนิดเบาบางเพื่อฆ่าเชื้อโรคบนท้องถนน และได้ทำการโยนอีเอ็มบอลในจุดที่น้ำยังท่วมขังอยู่
นายวิทยา กล่าวว่า การรณรงค์ในวันนี้เป็นการรณรงค์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเริ่มรักษาความสะอาดบริเวณที่อยู่อาศัยและท้องถนน ซึ่งน้ำลดลงแล้ว รวมทั้งใส่ใจในการดูแลพื้นที่ที่น้ำยังท่วมขังด้วยการใส่อีเอ็มลงไป แต่ก็ยอมรับว่าระดับน้ำที่อยู่รอบนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา หรือในเขตเทศบาลเมืองอโยธยา หลายจุดยังท่วมขังสูงอยู่ และเริ่มเน่าเสีย ทำให้ต้องหาทางในการเข้าไปดูแล
ส่วนอำเภอรอบนอกส่วนใหญ่ก็ยังมีน้ำท่วมอยู่ โดยเฉพาะที่ อ.เสนา อ.บางบาล ผักไห่ ก็ยังถือว่าหนักอยู่ เพราะน้ำยังท่วมอยู่ในเมือง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั้งเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และเทศบาลเมืองอโยธยาพยายามกู้ถนนเพื่อให้สามารถสัญจรได้ ในการเชื่อมโยงการคมนาคม ซึ่งคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาฟื้นฟูกว่า 20 วันเฉพาะเขตเทศบาล
ในส่วนของเรื่องการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็มีโครงการที่จะประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่ามีวัดอยู่ 3 แห่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่น้ำไม่ท่วมและเป็นวัดสำคัญ ได้แก่วัดพนัญเชิงวรวิหาร วัดพุทไธศวรรย์ และวัดนิเวศธรรมประวัติ ซึ่งการท่องเที่ยวพยายามที่จะเร่งฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กลับมาเป็นเมืองท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของอยุธยาต่อไป
อ่างทองน้ำเริ่มคลี่คลาย-ผู้ว่าฯเร่งแผนฟื้นฟู
วันเดียวกัน ช่วงเวลา 08.00-10.00 น.ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดอ่างทอง นายวิศว ศะศิสมิต ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ได้ประชุมส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยหลังปริมาณน้ำในพื้นที่เริ่มลดลงตามลำดับ
นายวิศว เผยว่า สำหรับความเสียหายจากอุทกภัยครั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2554 ถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2554 ได้ประสบอุทกภัยทั้ง 7 อำเภอ จำนวน 73 ตำบล 481 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 35,781 ครัวเรือน จำนวน 107,971 คน อพยพ 3,685 คน เสียชีวิต 10 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 112,794ไร่ สัตว์น้ำ 1,650 บ่อ 510 กระชัง ปศุสัตว์ 77,769 ตัว ถนน/คันกั้นน้ำ เสียหาย 111 สาย สะพาน 1 แห่ง วัด 153 วัด โรงเรียน 128 โรงเรียน และสถานที่ราชการ 52 แห่ง
“ขณะนี้ได้ให้แต่ละส่วนราชการที่เกี่ยวข้องส่งแผนฟื้นฟูราษฎรหลังน้ำลด เพื่อนำมาร่วมประชุมพิจารณาหรือบูรณาการฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้ ถ้าหน่วยงานใดฟื้นฟูได้ให้ดำเนินการๆได้ทันทีไม่ต้องรอถึงน้ำแห้งทั้งหมด เพาะแต่ละหน่วยงานฟื้นฟูไม่เหมือนกันอันจะเป็นผลดีแก่ผู้ได้รับผลกระทบ และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น”