ลำปาง - สายตรวจป่าไม้ภาคเหนือ บุกจับมอดไม้ได้ 4 คน ขณะกำลังตัดไม้ประดู่ในป่าสงวนแห่งชาติแม่เรียงพร้อมคนขับรถตีนตะขาบบุกรุกที่กว่า 50 ไร่
วันนี้ (1 พ.ย.) นายเมธี ศาสตร์ศรรี สายตรวจปราบปรามภาคเหนือตอนบน กรมป่าไม้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ ประจำจังหวัดลำปาง ซึ่งมี นายพิษณุพันธุ์ วงศ์ขันธ์ เป็นหัวหน้าชุด พร้อมกำลังกว่า10นาย ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติแม่เรียง ตั้งอยู่ในบ้านแม่ฮาม หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะคา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง หลังได้รับแจ้งว่ามีการบุกรุกพื้นที่จำนวนมาก
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมายปรากฏว่าบริเวณข้างทาง ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่เรียงเช่นเดียวกัน มีรถปิกอัพหมายเลขทะเบียน บย 1160 ลำปาง จอดอยู่ เมื่อเจ้าหน้าที่หยุดรถก็ได้ยินเสียงเลื่อยยนต์ดังมาจากด้านในป่า จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบว่า มอดไม้กำลังใช้เลื่อยยนต์ตัดไม้ จึงได้แสดงตนเข้าจับกุม ได้ผู้ต้องหาจำนวน 3 คน รับสารภาพว่า รับจ้างจากเจ้าของที่ให้มาทำการตัดไม้
แต่เมื่อให้เรียกผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของมาพบกลับไม่มีใครมาแสดงตัว เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พร้อมของกลาง ซึ่งเป็นไม้ประดู่ ไม้ยอ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 ซม.20 ซม.ที่ถูกตัดทิ้งไว้และพร้อมลำเลียงจำนวนเกือบ100ท่อน และรถยนต์ 1 คัน ส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินทางต่อไปยังพื้นที่เป้าหมาย พบว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่เรียง ถูกบุกรุกแผ้วถางจนเป็นที่โล่งเตียนไปแล้วกว่า 20 ไร่ มีการนำต้นปาล์มลงปลูก จนเกือบเต็มพื้นที่ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ คนขับได้ขับรถตีนตะขาบเข้าไปหลบซ่อนไว้ในป่า แต่ก็ไปไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวได้
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เดินสำรวจต่อไปในป่า ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนแปลงเดียวกัน ก็พบว่า มีการใช้รถตีนตะขาบ พยายามดันต้นไม้ล้มระเนระนาด เพื่อจะปรับพื้นที่ให้กว้างออกไปอีกจำนวนมาก รวมแล้วกว่า 50 ไร่
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวคนขับรถตีนตะขาบพร้อมยึดรถ ให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินคดี อีก 1 ราย และระหว่างที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวคนขับรถตีนตะขาบเพื่อจะนำส่งพนักงานสอบสวนได้มีสิบเอกธนากรณ์ เจตเกษตรศาสตร์ อดีตข้าราชการบำนาญ ได้มาแสดงตัวว่า เป็นเจ้าของที่ โดยอ้างว่า ได้ซื้อที่บริเวณดังกล่าวจากชาวบ้านตั้งแต่ปี 2522 แต่ไม่ได้ทำอะไรจนกระทั่งเกษียนจึงได้มาปรับที่ดินเพื่อนำปาล์มมาปลูก แต่ไม่รู้ว่าเป็นที่ป่าสงวนฯหากทราบคงไม่ซื้อแน่นอน
