สุโขทัย - เจ้าหน้าที่ป่าไม้นำกำลังเข้าตรวจสอบป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สิน-แม่สาน-แม่สูงฝั่งซ้าย พบนายทุนนำเครื่องจักรเข้าแผ้วถางป่าเป็นบริเวณกว้างล้มต้นไม้ใหญ่กว่า 500 ต้น คาดปรับพื้นที่เตรียมปลูกยางพารา เบื้องต้นเชื่อเป็นฝีมือกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ อาศัยช่วงจังหวะที่มีการสั่งให้ จนท.หน่วยรักษาป่าออกจากพื้นที่ไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
รายงานจากจังหวัดสุโขทัย แจ้งว่า นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้นายอำนาจ สร้อยเกียว ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ภาคเหนือตอนล่าง สายที่ 3 (สุโขทัย) จำนวน 30 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าแม่สิน-แม่สาน-แม่สูงฝั่งซ้าย) บ้านสันหีบ หมู่ 8 ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
ทั้งนี้ หลังจากได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์บริการประชาชน ว่า มีกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพล บุกรุกแผ้วถางพื้นที่ป่าสงวน โดยจากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ป่าสงวนดังกล่าวที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ถูกบุกรุกโค่นทำลาย มีการใช้รถแบ็คโฮปรับพื้นที่ ดันต้นไม้ขนาดใหญ่ อาทิ ไม้มะค่า ไม้แดง และไม้เบญจพรรณกว่า 500 ต้นให้ล้มจนเตียนโล่งเป็นเขาหัวโล้นซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถยึดรถแบ็คโฮ ยี่ห้อโคเบลโก สีเขียว ที่จอดทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าวได้ 1 คัน ส่วนคนงานขับรถแบ็คโฮ สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้
ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) เปิดเผยว่า กลุ่มนายทุนซึ่งบุกรุกทำลายผืนป่าแห่งนี้ เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อาศัยช่วงที่ทางกรมป่าไม้ มีคำสั่งให้กำลังเจ้าหน้าที่ของแต่ละหน่วยเดินทางออกนอกพื้นที่ ไปให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าประจำที่ตั้งเพียง 1-2 นายเท่านั้น เข้าไปทำการบุกรุกป่าสงวนฯ ซึ่งเมื่อพบว่าเป็นจริงตามที่มีการร้องเรียน จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมทันที แต่ผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนงานขับรถแบ็คโฮ สามารถหลบหนีไปได้ก่อน
สำหรับพื้นที่ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่คาดว่ากลุ่มนายทุนน่าจะบุกรุก แผ้วถาง ปรับพื้นที่เพื่อเตรียมปลูกยางพารา เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ ทางกรมป่าไม้ได้มีการจับกุมผู้บุกรุก แผ้วถางพื้นที่ป่าสงวน ในเขตอุทยานแห่งชาติ ที่ จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิษณุโลก เพื่อปลูกยางพารา มาแล้ว เมื่อมีการกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง และยึดผืนป่าคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติ กลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงหันมาใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าแม่สิน-แม่สาน-แม่สูงฝั่งซ้าย) ซึ่งเป็นป่าลึกอยู่บนภูเขาแทน
เบื้องต้นชุดจับกุมได้ยึดรถแบ็คโฮ และไม้ทั้งหมดไว้เป็นของกลาง แจ้งข้อหาบุกรุก ก่อสร้าง แผ้วถาง ยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 , ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.รบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และมีไม้หวงห้ามซึ่งยังไม่ได้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่ง พ.ต.ท.บุญส่ง พันธุ์อุโมงค์ สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรศรีสัชนาลัย เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
รายงานจากจังหวัดสุโขทัย แจ้งว่า นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้นายอำนาจ สร้อยเกียว ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ภาคเหนือตอนล่าง สายที่ 3 (สุโขทัย) จำนวน 30 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าแม่สิน-แม่สาน-แม่สูงฝั่งซ้าย) บ้านสันหีบ หมู่ 8 ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
ทั้งนี้ หลังจากได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์บริการประชาชน ว่า มีกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพล บุกรุกแผ้วถางพื้นที่ป่าสงวน โดยจากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ป่าสงวนดังกล่าวที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ถูกบุกรุกโค่นทำลาย มีการใช้รถแบ็คโฮปรับพื้นที่ ดันต้นไม้ขนาดใหญ่ อาทิ ไม้มะค่า ไม้แดง และไม้เบญจพรรณกว่า 500 ต้นให้ล้มจนเตียนโล่งเป็นเขาหัวโล้นซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถยึดรถแบ็คโฮ ยี่ห้อโคเบลโก สีเขียว ที่จอดทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าวได้ 1 คัน ส่วนคนงานขับรถแบ็คโฮ สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้
ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) เปิดเผยว่า กลุ่มนายทุนซึ่งบุกรุกทำลายผืนป่าแห่งนี้ เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อาศัยช่วงที่ทางกรมป่าไม้ มีคำสั่งให้กำลังเจ้าหน้าที่ของแต่ละหน่วยเดินทางออกนอกพื้นที่ ไปให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าประจำที่ตั้งเพียง 1-2 นายเท่านั้น เข้าไปทำการบุกรุกป่าสงวนฯ ซึ่งเมื่อพบว่าเป็นจริงตามที่มีการร้องเรียน จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมทันที แต่ผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนงานขับรถแบ็คโฮ สามารถหลบหนีไปได้ก่อน
สำหรับพื้นที่ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่คาดว่ากลุ่มนายทุนน่าจะบุกรุก แผ้วถาง ปรับพื้นที่เพื่อเตรียมปลูกยางพารา เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ ทางกรมป่าไม้ได้มีการจับกุมผู้บุกรุก แผ้วถางพื้นที่ป่าสงวน ในเขตอุทยานแห่งชาติ ที่ จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิษณุโลก เพื่อปลูกยางพารา มาแล้ว เมื่อมีการกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง และยึดผืนป่าคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติ กลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงหันมาใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าแม่สิน-แม่สาน-แม่สูงฝั่งซ้าย) ซึ่งเป็นป่าลึกอยู่บนภูเขาแทน
เบื้องต้นชุดจับกุมได้ยึดรถแบ็คโฮ และไม้ทั้งหมดไว้เป็นของกลาง แจ้งข้อหาบุกรุก ก่อสร้าง แผ้วถาง ยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 , ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.รบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และมีไม้หวงห้ามซึ่งยังไม่ได้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่ง พ.ต.ท.บุญส่ง พันธุ์อุโมงค์ สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรศรีสัชนาลัย เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป