อุบลราชธานี - คนเก็บขยะขายครวญ น้ำพัดพาขยะเศรษฐกิจไปกับสายน้ำ ทำให้เก็บขยะมาขายได้น้อยลง ขณะที่สำนักงานพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานีเขต 4 ยันต้องสั่งปิดโรงเรียนในเขตน้ำท่วมไม่มีกำหนด เพราะไม่สามารถรวบรวมนักเรียนที่กระจัดกระจายมาทำการเรียนการสอนในพื้นที่ชั่วคราวได้
วันนี้ (31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่จังหวัดอุบลราชธานี เกิดอุทกภัยน้ำท่วมตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม และโรงเรียน 4 แห่งในสำนักงานพื้นที่การศึกษาเขต 4 อ.วารินชำราบ ต้องสั่งปิดการเรียนการสอนตั้งแต่เดือนกันยายน เพราะน้ำไหลท่วมโรงเรียนสูง 2-3 เมตร และมีกำหนดเปิดภาคเรียนที่ 2 ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ แต่ปรากฏว่าระดับน้ำที่ไหลท่วมโรงเรียนทั้ง 4 แห่ง ยังไม่ลดลง จึงต้องประกาศปิดโรงเรียนต่อไปอีก
จากการสอบถาม ด.ช.สิทธิชัย กาญจนบุตร นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนหาดสวนยาบอกว่า อยากไปเรียนหนังสือ เพราะโรงเรียนปิดมาเกือบ 2 เดือนแล้ว และช่วงที่ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ ก็ได้แต่วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ อยู่ในศูนย์อพยพ บางครั้งก็ออกไปตกปลา สำหรับช่วงเวลาเปิดเทอมใหม่ยังไม่แน่ใจโรงเรียนจะเปิดได้ตอนไหน แต่ผู้ใหญ่บอกว่าน้ำอาจจะลดในราวเดือนธันวาคม
ด้าน นายปัญญา แพงเหล่า หัวหน้ากลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานพื้นที่การศึกษาเขต 4 อ.วารินชำราบ กล่าวว่า การสั่งปิดโรงเรียนผู้อำนวยการสามารถสั่งปิดได้ครั้งละ 7 วัน จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะดีขึ้น สำหรับการรวบรวมนักเรียนเปิดสอนในจุดอื่น คงทำไม่ได้ เพราะนักเรียนอยู่กันกระจัดกระจาย บางคนผู้ปกครองพาไปพักอยู่ตามบ้านญาติในต่างอำเภอ ไม่สามารถติดตามนักเรียนให้มาเรียนได้ครบทุกคน
จึงตัดสินใจสั่งปิดและจะทำการสอนชดเชยให้ครบตามหลักสูตรหลังน้ำลดลงสู่ภาวะปกติ
ส่วนความเสียหายของโรงเรียนทั้ง 4 แห่ง เบื้องต้นอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ไม่ได้เคลื่อนย้ายออกมาคงเสียหายหมด รวงมทั้งหนังสือเรียนของเด็กนักเรียน ซึ่งสำนักงานพื้นที่การศึกษาจะจัดหาให้ใหม่ทั้งหมด สำหรับรายชื่อโรงเรียนที่ยังต้อปิดต่อไปอย่างไม่มีกำหนดประกอบด้วย โรงเรียนชุมชนท่าบ้งมั่ง โรงเรียนชุมชนหาดสวนยา โรงเรียนกุดปลาขาว และโรงเรียนชุมชนคูสว่าง ทั้งหมดตั้งอยู่ใน อ.วารินชำราบ เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาตอนปลาย มีนักเรียนกว่า 300 คน
ขณะเดียวกัน ปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว ยังผลกระทบต่กการประกอบอาชีพของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม โดยนางคำพลอย ศรีพรมใต้ ชาวบ้านชุมชนเกตุแก้ว ซึ่งมีอาชีพเก็ลขยะและหนีน้ำท่วมอยู่ในศูนย์อพยพชุมชนเกตุแก้ว หลังสำนักงานที่ดินอำเภอวารินชำราบ ระบุว่า ย้ายเพิงพักหนีน้ำท่วมปีนี้ถึง 4 ครั้ง ทำให้สุขภาพจิตย่ำแย่ เพราะต้องคอยระวังระดับน้ำอยู่ตลอดเวลา และมีรายได้จากการตระเวนเก็บขยะน้อยลง เพราะขยะที่เป็นรายได้ถูกน้ำพัดพาไปกับกระแสน้ำ
รวมทั้งผู้คนลดการใช้สิ่งของฟุ่มเฟือย ทำให้มีรายได้จากการเก็บขยะมาคัดแยกขายประมาณสัปดาห์ละ 1,000 บาท จากเดิมที่เคยมีรายได้เฉลี่ย 2,000-3,000 บาท จึงอยากให้น้ำลดลงเร็ว เพื่อจะมีขยะให้เก็บเพิ่มขึ้น และลดความลำบากในการอยู่อาศัย เพราะต้องอพยพมาอยู่ในศูนย์นานกว่า 2 เดือนแล้ว
สำหรับระดับแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตยวันนี้ น้ำลดลงอีก 2 เซนติเมตร แต่ยังมีน้ำล้นตลิ่งสูง 2.73 เมตร และน้ำมีความเร็ว 4,511 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที