ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์สั่งเจาะถนนระบายน้ำลดผลกระทบน้ำท่วม

กาฬสินธุ์ - น้ำท่วมกาฬสินธุ์วิกฤตหนัก หลังเขื่อนอุบลรัตน์ยังเร่งระบายน้ำต่อเนื่อง กระทบพนังกั้นน้ำชีแตก ส่งผลน้ำไหลย้อนท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้วกว่า 5,000 หลังคาเรือน นาข้าวจมน้ำเสียหาย 1.2 แสนไร่ ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งเจาะพนังถนนเชื่อมหมู่บ้านหลายแห่งเร่งระบายน้ำสู่แม่น้ำปาว ลดความเสียหาย

วันนี้ (24 ต.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอกมลาไสยและอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งยังวิกฤต เนื่องจากเขื่อนอุบลรัตน์จังหวัดขอนแก่น ยังเร่งระบายน้ำออกท้ายเขื่อน ส่งผลให้น้ำที่ไหลทะลักจากพนังกั้นน้ำชีที่แตกบริเวณหลัก กม.ที่ 21-25 เขตตำบลธัญญา อำเภอกมลาไสย ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามซ่อมแล้ว แต่ยังซ่อมไม่เสร็จอีก 3 จุดใหญ่ ส่งผลให้กระแสน้ำได้ไหลทะลักเข้าและย้อนกลับเข้าหมู่บ้าน มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 5,000 หลังคาเรือน ใน 30 หมู่บ้านทั้ง 2 อำเภอและมีพื้นที่นาข้าวเสียหายแล้วอย่างน้อย 120,000 ไร่

ล่าสุด นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายธนูสินธุ์ ไชยสิริ นายอำเภอกมลาไสย พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่นในตำบลดงลิง นำชาวบ้านกว่า 100 คน เจาะถนนพนังกั้นน้ำตรงบริเวณบ้านโนนเมือง ตำบลดงลิงในหลายจุด เพื่อเร่งระบายน้ำชีที่กำลังท่วมบ้านและนาข้าว ให้ไหลลงสู่แม่น้ำปาวโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ การเจาะถนนพนังกั้นน้ำดังกล่าว ได้ผ่านประชาคมจากชาวบ้านในพื้นที่ ยอมให้ที่นาของตัวเองกว่า 3 พันไร่ถูกน้ำท่วมแทน เพื่อลดระดับความรุนแรงของน้ำท่วม ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า สถานการณ์จะกลับเป็นปกติได้ เขื่อนอุบลรัตน์จะต้องหยุดการระบายน้ำเท่านั้น

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผลจากการที่เขื่อนอุบลรัตน์จังหวัดขอนแก่นเร่งระบายน้ำปริมาณมากลงมาอย่างต่อเนื่องทุกวัน นอกจากจะทำให้พนังกั้นลำน้ำชีแตกไปแล้วหลายจุด น้ำไหลทะลักเข้ามาท่วมบ้านเรือนประชาชนในอำเภอกมลาไสยและอำเภอฆ้องชัยจำนวน 31 หมู่บ้านกว่า 5,000 หลังคาเรือน

นอกจากนี้ ยังทำให้นาข้าวเกษตรกรที่กำลังรอเก็บเกี่ยวถูกน้ำท่วม ได้รับความเสียหายไปแล้ว 120,000 ไร่ และปริมาณน้ำยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน จำเป็นต้องเจาะถนนพนังกั้นบริเวณบ้านโนนเมือง เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปาวโดยเร็วที่สุด เพื่อลดความเสียหาย หากปล่อยไว้จะทำให้บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีกมาก ที่สำคัญนาข้าวจะถูกน้ำท่วมอีกไม่ต่ำกว่า 300,000 ไร่ ส่วนหมู่บ้านที่อยู่ในจุดเสี่ยง โดยเฉพาะบ้านชั้นเดียว ได้สั่งการให้เร่งอพยพไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัยแล้ว