กาฬสินธุ์ - สถานการณ์น้ำท่วมกาฬสินธุ์วิกฤตหนัก 54 หลังคาเรือน ในเขต อ.กมลาไสย จมน้ำสูง 2 เมตร สาเหตุแม่น้ำชีเจาะทะลุกำแพงวัดบ้านหนองมะเกลือ ต.เจ้าท่า กว่า 400 ชีวิตนอกพนังกั้นน้ำต้องหนีตาย ด้านจังหวัดอพยพพร้อมตั้งเต็นท์ให้ที่พัก ประกาศพื้นที่วิกฤตสั่งเสริมพนังหวั่นน้ำเชี่ยวเจาะพนังขาด
วันนี้ (12 ต.ค.) เวลา 11.00 น.ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า ปัญหาน้ำท่วมยังคงวิกฤตหนักในหลายพื้นที่สาเหตุจากอิทธิพลการเร่งระบายน้ำลงแม่น้ำปาวของเขื่อนลำปาว เนื่องจากปริมาณน้ำยังเกินพิกัดกับอิทธิพลของแม่น้ำชี ซึ่งเกิดจากผลของการเร่งระบายน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์จังหวัดขอนแก่น และน้ำไหลหลากจากจังหวัดชัยภูมิ
ทั้งนี้ ได้ยังส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในเขต อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.สหัสขันธ์ อ.หนองกุงศรี อ.ห้วยเม็ก อ.ฆ้องชัย อ.ยางตลาดและ อ.กมลาไสย กินพื้นที่นาข้าวเสียหายกว่า 1 แสนไร่ มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม กว่า 3 พันหลังคาเรือน
ล่าสุด มีรายงานว่า ที่บ้านหนองมะเกลือ ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย อิทธิพลของแม่น้ำชีที่หนุนสูงได้ส่งผลให้เกิดน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนทันทีถึง 54 หลังคาเรือน สาเหตุจากมวลน้ำจำนวนมหาศาลที่ไหลหลากเข้ามา ได้เจาะทะลุกำแพงวัดส่งผลให้เกิดน้ำท่วมทันที ท่ามกลางความโกลาหล เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากได้เข้าไปทำบุญออกพรรษา
นายบุญตา จำรัสรักษ์ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองมะเกลือ เล่าว่า สถานการณ์น้ำท่วมหมู่บ้านทั้งหมดเกิดขึ้นระหว่างที่ชาวบ้านกำลังร่วมกันประกอบพิธีทำบุญออกพรรษา ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่นอกพนังกั้นลำน้ำชี
ระหว่างที่พระกำลังให้พร ได้ยินเสียงดังสนั่นจึงได้วิ่งออกไปดู ปรากฏพบกำแพงวัดพังลง จากนั้นมวลน้ำจำนวนมากจากลำน้ำชีก็ได้ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านต่างพากันวิ่งไปเก็บสัมภาระกันอย่างทุลักทุเล แต่ทุกคนก็ปลอดภัย จากนั้นก็ได้จากไปทางอำเภอเข้าช่วยเหลือ
ล่าสุด มีรายงานอีกว่า นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายธนูญสินธุ์ ไชยสิริ นายอำเภอกมลาไสย ได้ระดมชาวบ้านและรถแบ็กโฮทำการเสริมพนังทันที หลังจากพบว่ากระแสน้ำชีมีความเชี่ยวกราจและพยายามที่จะเจาะข้ามพนัง ซึ่งหากไม่สามารถต้านได้จะทำให้เกิดน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่นาและในอีกหลายหมู่บ้านจะต้องได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ อำเภอได้อพยพประชาชนไปอยู่บนเต้นท์ที่พักไว้อย่างปลอดภัย และชาวบ้านยังได้ช่วยกันจัดเวรยามติดตามการรั่วซึมของน้ำอย่างต่อเนื่อง