xs
xsm
sm
md
lg

16 อำเภอกรุงเก่ายังวิกฤต รมว.สธ.สั่งเร่งกำจัดขยะ-น้ำเริ่มส่งกลิ่นเหม็น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พระนครศรีอยุะยา - “กรุงเก่า” ยังจมวัดพนัญเชิงฯ เสริมกระสอบทรายต่อเนื่อง หลังมีกระแสข่าวน้ำเหนือจะทะลักเพิ่ม และมีฝนตกอีก เผย ระดับน้ำด้านนอกคันป้องกันแม่น้ำเจ้าพระยาที่วัดพนัญเชิงฯ ขณะนี้มีระดับต่ำกว่าแนวป้องกันเพียง 20 ซม.โดยที่กำแพงป้องกันมีความสูงถึง 5.10 ม.เท่านั้น “ศปภ.” ลงพื้นที่ปากคลองข้าวเม่า หาทางชะลอน้ำเข้ากรุงเทพฯ รมว.สาธารณสุข สั่งเร่งกำจัดขยะ และแก้ปัญหาน้ำที่เริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็นแล้ว

วันนี้ (20 ต.ค.) ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 16 อำเภอของ จ.พระครศรีอยุธยา ยังวิกฤตอยู่เช่นเดิม โดยที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นโท เนื้อที่ 82 ไร่เศษ มีพระพุทธไตรรัตนายก หรือหลวงพ่อโต เป็นที่เคารพของคนทั่วไปยังคงระดมกำลัง ตชด.จากกองร้อยต่างๆ กว่า 200 นาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเสริมแนวกระสอบทรายหลังบังเกอร์ไม้ และบังเกอร์คันดินที่ทำเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว หลังจากมีข่าวว่า จะมีมวลน้ำมาจากทางเหนือและยังมีฝนตกอีก ซึ่งระดับน้ำด้านนอกคันป้องกันแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้มีระดับต่ำกว่าแนวป้องกันเพียง 20 ซม.โดยที่กำแพงป้องกันมีความสูงถึง 5.10 ม.แล้ว

พระราชรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร และเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เหตุที่ยังต้องมีการเสริมคันดินตลอดเวลา เนื่องจากระดับน้ำยังสูงอยู่มาก และมีการรั่วซึมตามแนวป้องกันหลายจุด อีกทั้งยังถูกคลื่นจากเรือที่วิ่งในแม่น้ำซัด ซึ่งได้มีการวางแนวกระสอบทรายมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้นับเวลาเป็นเดือนกว่าแล้ว หากไม่มีการเสริมป้องกันเกิดพังลงมาก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ซึ่งหากดูจากระดับน้ำแล้วขณะนี้ หากน้ำทะลักเข้ามาก็ไม่ต่างอะไรกับนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เนื่องจากระดับน้ำจะลึกกว่าถึง 4 เมตรจะสร้างความเสียหายอย่างมาก

วันเดียวกัน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และผู้อำนวยการศูนย์ (ศปภ.) ร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วม พร้อมด้วย นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ปากคลองข้าวเม่า ตรงถนนสายเอเซีย กม.22 สะพานข้ามคลองข้าวเม่า ต.ธนู อ.อุทัย และปากคลองสาคู ถนนสายเอเชีย กม.23 ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา และเชิงสะพานข้ามทางรถไฟ ถนนสายเอเชีย ซึ่งทั้งหมดเป็นเขตติดต่อกัน โดยปัจจุบันมีประมาณน้ำจำนวนมหาศาลจากแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำลพบุรี ไหลลอดสะพานตรงสะพานคลองข้าวเม่าและคลองสาคู เข้าไปในเขตฝั่งตะวันออกของจังหวัดและไหลเข้าพื้นที่อยุธยาฝั่งตะวันออก พื้นที่ จ.ปทุมธานี ฝั่งตะวันออก และพื้นที่กรุงเทพ ฝั่งตะวันออก

นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำพาคณะ ศปภ.มาลงพื้นที่และขอยืนยันว่าจะไม่มีการทำสิ่งขวางทางน้ำทั้งหมด แต่จะเป็นการนำสิ่งขวางเพื่อชะลอน้ำ โดยประเมินแล้วอีกไม่เกิน 2-3 วันจะมีมวลน้ำจากภาคเหนือไหลมาอีกรอบ และการหาทางชะลอน้ำจะช่วยลดความเสียหายในฝั่งตะวันออกตั้งแต่พื้นที่เป้าหมายได้

สำหรับแนวทางชะลอน้ำได้นำหินใส่ตระกล้าลวดตะแกรงเหล็ก และมาทางขวางทางน้ำบนถนนสายเอเซีย และคอสะพานจากปากคลองข้าวเม่า คลองสาคู ไปจนถึงสะพานข้ามทางรถไฟ เชื่อว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 7 วันในการดำเนินการหรืออาจเร็วกว่านั้น

ส่วนซิปพายที่จะตอกปากคลองข้าวเม่า และคลองสาคู นั้น ยอมรับว่า ได้เจรจากับชาวบ้านแล้ว ชาวบ้านก็ให้ความร่วมมือดี แต่ขอร้องกลับมาเช่นกันว่าให้น้ำลดลง 10-20 ซม.ก่อนจึงจะยอมให้ตอกซิปพายได้ โดยแนวทางที่ดำเนินการเชื่อว่าสามารถลดมวลน้ำที่จะไหลเข้าพื้นที่ฝั่งตะวันออกที่ท้ายสุดจะไหลไปถึงกรุงเทพฯได้ 70% ส่วนอีก 30% ต้องปล่อยไหลไปตามธรรมชาติ”

ด้าน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก กล่าวว่า แผนการดังกล่าวเป็นเพียงการชะลอน้ำเท่านั้นขอชี้แจงชาวอยุธยาว่าไม่ได้ขวางน้ำทั้งหมดและต้องขอบคุณชาวอยุธยาที่เสียสละและเข้าใจสถานการณ์ ขณะนี้น้ำท่วมสร้างความเสียหายไปอย่างกว้างขวาง ทุกคนเข้าใจแล้วว่าน้ำท่วมนั้นลำบากและขัดสนเป็นอย่างไร จึงมีความเห็นใจคนที่ต้องแบกรับน้ำแทนพื้นที่อื่นเช่นกัน

นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยอีกว่า จากผลการดำเนินงานในวันนี้ นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายให้ อบจ.เข้าไปดูแลในพื้นที่ตลาดกลาง และภายในบริเวณเกาะเมือง เพื่อกำจัดขยะ เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังเริ่มส่งกลิ่นเหม็น โดยให้นำดาสตาบอลไปใส่ในจุดต่างๆ เช่น ศาลากลาง ตลาดกลาง และจุดอื่นๆ ที่ต้องเร่งสำรวจ โดยจังหวัดสนับสนุนเรือจำนวน 2 ลำ ให้เจ้าหน้าที่ชุดป้องกันไฟป่าไปดำเนินการสำรวจ
กำลังโหลดความคิดเห็น