เชียงราย - สป.จีน ส่งกำลังตำรวจ พร้อมเรือเร็ว คุ้มกัน 26 เรือสินค้า ที่ต้องจอดทอดสมอที่ท่าเรือเชียงแสน หลังเกิดเหตุสยองลูกเรือถูกฆ่าโหดกลางน้ำโขงยกลำกว่า 10 ศพ เดินทางกลับเชียงรุ่งแล้ว ขณะที่ญาติเหยื่อร่วมครึ่งร้อยดูศพที่ รพ.เชียงราย ด้านทีมนิติเวชไทย-จีน เตรียมร่วมพิสูจน์ศพเสาร์นี้ (15 ต.ค.)
วันนี้ (14 ต.ค.54) ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ทางการจีนได้ส่งกำลังพร้อมเรือเร็ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน พร้อมอาวุธครบมือ เดินทางมายังท่าเรือ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อคุ้มกันกองคาราวานเรือสินค้าจีนที่ตกค้างอยู่ที่ท่าเรือจำนวน 26 ลำ กลับ สป.จีน หลังจากรัฐบาลจีนได้ประกาศให้หยุดเดินเรือสินค้าในแม่น้ำโขงและเรียกเรือกลับท่าเรือท่าเรือเมืองเชียงรุ้งหรือจิ่งหง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ทำให้เรือทุกลำต้องเดินทางกลับ
โดยเรือสินค้าจีน พร้อมกำลังคุ้มกัน เดินทางออกจากท่าเรือ อ.เชียงแสน เป็นขบวนใหญ่ มีผู้บริหารระดับสูงจากมณฑลหยุนหนันและตัวแทนจากสถานกงสุลใหญ่ของจีนประจำ จ.เชียงใหม่ เดินทางส่งและรับเรือที่บริเวณท่าเรืออย่างคึกคัก ขณะที่ฝ่ายไทยมีเจ้าหน้าที่หลายคนเข้าช่วยอำนวยความสะดวก เช่น นายสุรชาติ จันทวัชรากร นายด่านศุลกากรเชียงแสน เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า เรือสินค้าจีนทั้งหมดได้ค่อยๆ ทยอยออกจากท่าเรือโดยเดินทางเรียงกันเป็นขบวนใหญ่ ซึ่งนับเป็นคาราวานกองเรือสินค้าที่มากที่สุดเท่าที่เคยปรากฏบริเวณดังกล่าว จนสร้างความตื่นตะลึงให้กับประชาชนชาวเชียงแสนที่อยู่ริมฝั่งที่ต่างออกมายืนดูการเคลื่อนขบวนเรือ
พร้อมกันนี้พบว่าทางการจีนได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธและเรือเร็วจำนวน 2 ลำ โดยมีกำลังไม่ต่ำกว่า 30 นาย ทำการลาดตระเวนตั้งแต่ช่วงหัวขบวนถึงท้ายขบวนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับส่งกำลังคุ้มกันขึ้นไปบนเรือสินค้าบางลำด้วย โดยเฉพาะเรือที่อยู่ด้านท้ายสุดของขบวน
ตลอดเส้นทางในเขตน่านน้ำไทยทาง นรข.เขตเชียงราย ตำรวจน้ำและกรมเจ้าท่า ได้ส่งเรือเร็วพร้อมกำลังช่วยในการคุ้มกันไปตลอดรายทางจนสุดเขตแดนไทยบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ
จากนั้นกองคาราวานเรือสินค้าจีนได้แล่นเข้าสู่แม่น้ำโขงเขตน่านน้ำพม่า-สปป.ลาว มุ่งสู่ทิศเหนือซึ่งต้องผ่านเขตอิทธิพลของกลุ่มโจรสลัดแม่น้ำโขงที่ออกอาละวาด บริเวณเมืองพงไปจนถึงเชียงลาบ ประเทศพม่า ตรงกันข้ามแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว จากนั้นจะมีกองกำลังของพม่าและ สปป.ลาว ออกมาช่วยสนับสนุนกองกำลังของจีนตลอดรายทางไปจนถึงชายแดนเชียงรุ่ง สป.จีน เช่นกัน
การเดินทางกลับดังกล่าวทำให้ท่าเรือเชียงแสนสงบเงียบลง โดยไม่มีการขนส่งสินค้าทางเรือที่แล่นเข้าออก รถบรรทุกและกรรมกรที่คึกคักเหมือนเดิม มีเพียงเจ้าหน้าที่ชายแดนและชาวบ้านที่ต่างออกมาจับกุล่มคุยกัน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ก่อนที่เรือจีนจะเดินทางกลับได้มีตัวแทนของนายกวน มู่ เอกอัคราชทูตประเทศจีน ประจำประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.จู่ เหว่ย หมิง กงสุลใหญ่ประเทศจีน ประจำ จ.เชียงใหม่ นำคณะญาติของกัปตันและลูกเรือจีนที่เสียชีวิตประมาณ 50 คน เดินทางไปดูศพญาติของตัวเอง โดยมีการเจาะเลือดญาติเพื่อนำไปเปรียบเทียบว่าเป็นบุคคลที่เสียชีวิตจากเรือดังกล่าวจริง เพื่อนำไปประกอบคดี ณ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อ.เมือง จ.เชียงราย ก่อนที่ทั้งหมดจะไปทำพิธีทางศาสนาตามประเพณีของคนจีนที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลดโดยญาติของคนจีนหลายคนต่างร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
สำหรับศพทั้งหมดมีแนวโน้มว่าหลังชันสูตรเสร็จจะฌาปนกิจใน จ.เชียงราย โดยไม่นำกลับประเทศส่วนเรือจีนต้องรอผลการคลี่คลายคดีก่อน
ด้านความคืบหน้าของคดีพบว่า หลังจากกองกำลังผาเมืองได้ส่งมอบของกลางให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.ภพกร คูณเจริญสุข ผกก.สภ.เชียงแสน ไปคลี่คลายต่อแล้ว พบว่าในปัจจุบันแม้จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบนำโดยนายเสริมศักดิ์ สีสันต์ นายอำเภอเชียงแสน แต่ก็เป็นคณะทำงานอย่างไม่เป็นทางการ ทำให้แม่งานในการคลี่คลายคดียังคงเป็นตำรวจ ซึ่งคาดว่าจะมีการตั้งเป็นคณะกรรมการจากตำรวจภูธรภาค 5 หรือกองบังคับการ ภ.เชียงราย ลงไปคลี่คลายเนื่องจากเป็นคดีใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสะเทือนขวัญคนลุ่มแม่น้ำโขง
ปัจจุบันตำรวจมีของกลางสำคัญคือ ยาบ้าจำนวนดังกล่าว และเรือสินค้าจีน ที่ยังจอดอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอจำนวน 2 ลำ ส่วนสินค้าได้ตรวจสอบและตรวจปล่อยให้ผู้ประกอบการไปแล้ว ขณะที่พยานที่ตำรวจ สภ.เชียงแสน ได้ทำการสอบปากคำมีอยู่ประมาณ 10 ปาก โดยใช้ห้องประชุมของอาคารศุลกากร บริเวณท่าเรือเชียงแสนในการสอบปากคำ และมีกงสุลของจีนร่วมรับฟังการสอบอย่างใกล้ชิด ซึ่งพยานดังกล่าวมีทั้งคนเดินเรือจีนที่แล่นตามหลังเรือทั้ง 2 ลำไป ที่พบเห็นเหตุการณ์บางช่วง ลูกเรือจีนที่รู้จักผู้ตายจากการดูศพที่เสียชีวิต ฯลฯ
ขณะที่ประเทศจีนถึงขั้นเรียกร้องให้ประเทศไทยให้ความชัดเจนในเรื่องนี้ด้วย และยังไม่ระบุว่าจะสามารถแล่นเรือกลับมาทำการค้าได้เมื่อไหร่อย่างไร
ด้านนายแพทย์สุทัศน์ ศรีวิไล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า จนถึงปัจจุบันเรายังไม่สามารถที่จะชันสูตรศพได้ เพราะต้องรอจนถึงวันเสาร์ที่ 16 ต.ค.54 นี้เสียก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่นิติเวชจากโรงพยาบาลตำรวจ คณะแพทย์ศาสตร์ภาควิชานิติเวชมหาวิยาลัยเชียงใหม่ และแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จีนร่วมกันตรวจสอบพร้อมกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นพยานเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย
"จากนั้นจะนำหลักฐานทั้งหมดมอบให้กับทางสถานกงสุลจีน ซึ่งผมไม่รู้สึกหนักใจแต่ประการใด เพราะต้องทำให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล แม้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องระดับประเทศและรัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับคดีนี้มากก็ตาม เพราะเราเข้าใจความรู้สึกของเขา และจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดีเพื่อความสัมพันธ์อันดีของประเทศอีกด้วย" นายแพทย์สุทัศน์ กล่าว
ด้านนายสุรชาติ จันทวัชรากร นายด่านศุลกากรเชียงแสน กล่าวว่าการค้าทางเรือแม่น้ำโขงส่วนใหญ่เป็นการค้าไทย-จีน กว่า 99% โดยปีที่ผ่านมามีการค้ามูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 87,000 ล้านบาท ส่งออกผ่านแดนประมาณ 2,000 ล้านบาท และนำเข้าประมาณ 1,100 ล้านบาท ซึ่งผลของการที่เรือจีนถูกสั่งไม่ให้แล่นขนส่งสินค้าจึงทำให้มูลค่าการค้าทั้งหมดหายไปวันละประมาณ 200-300 ล้านบาท ส่วนท่าเรือก็คงจะเงียบเหงาเพราะเรือลาวที่แล่นไปมาคงจะไปใช้ท่าริมฝั่งที่ไม่ลาดชันเสียมากกว่า และคงต้องรอให้มีเจรจาระหว่างประเทศให้แล้วเสร็จ เพื่อร่วมกันคลี่คลายปัญหาให้แล้วเสร็จเสียก่อน ซึ่งคงไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่
ทั้งนี้ การประกาศเรียกเรือกลับ สป.จีน ทั้งหมดดังกล่าวมีขึ้นหลังเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 54ที่ผ่านมาเกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธใช้อาวุธปืนสงครามเข้าปล้นเรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง Hua Ping และเรือขนกระเทียมและแอปเปิล Yu Xing 8 ของจีน บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ
จากนั้นกองกำลังผาเมืองของไทย นำโดยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ได้เข้าควบคุมเรือเมื่อแล่นเข้าใกล้ฝั่งไทยบริเวณเขตหมู่บ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน และเมื่อค้นบนเรือพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ 920,000 เม็ด และผู้เสียชีวิต 1 ศพ ปืนอาก้า 1 กระบอก จากนั้นก็ทยอยพบศพผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นกัปตันเรือ คนในครอบครัว และลูกเรือ ลอยไปติดตามจุดต่างๆ ทั้งฝั่งไทยและ สปป.ลาว รวม 12 ศพ แต่ละศพถูกมัดมือและใบหน้าก่อนถูกฆาตกรรมโยนทิ้งน้ำ
เบื้องต้นกองกำลังผาเมืองของไทย เคยแถลงว่า เกิดจากเรือถูกปล้นนอกเขตแดนไทยขึ้นไปประมาณ 25 กิโลเมตรโดยฝีมือของกองกำลัง ซึ่งคาดว่าเป็นโจรสลัดแม่น้ำโขง