ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “บรรหาร-ชุมพล” ควงคู่ติดตามความคืบหน้างานก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่ เผย รอบนี้ “บรรหาร” ไล่บี้เอง เร่งทุกหน่วยทำงานให้ทันกำหนด ด้าน “ชุมพล” เผยงานโดยรวมคืบหน้ากว่า 80% แล้ว มั่นใจเสร็จทันตามสัญญาแน่ ส่วนการบริหารจัดการศูนย์ ให้ภาคเอกชนดำเนินการแน่ รองานก่อสร้างเสร็จเตรียมเปิดให้ผู้ที่สนใจเสนอแผนให้พิจารณา
วันนี้ (13 ต.ค.) นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และ นายบรรหาร ศิลปอาชา เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ ที่บริเวณสถานที่ก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ ถนนเลียบคลองชลประทาน ต.ช้างเผือก
ในการประชุมดังกล่าว นายบรรหาร ได้ซักถามถึงความคืบหน้าของการทำงานในด้านต่างๆ จากแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งกำชับให้ทุกฝ่ายทำงานให้แล้วเสร็จทันตามกำหนด โดยรายงานข่าวแจ้งว่านายบรรหารให้ความสนใจความคืบหน้าของแต่ละหน่วยงานเป็นอย่างมาก และได้ซักถามแต่ละหน่วยงานด้วยตนเองอย่างละเอียด และเมื่อมีหน่วยงานใดที่ชี้แจงข้อมูลหรือตอบคำถามได้ไม่ชัดเจนก็จะถูกนายบรรหารตำหนิ
ขณะเดียวกัน ในที่ประชุมยังได้หารือกันถึงแผนการบริหารงานศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ซึ่งทั้งนายบรรหารและนายชุมพลมีความเห็นสอดคล้องกันว่าทางกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาไม่ควรเป็นผู้ดำเนินการเอง เนื่องจากไม่มีความชำนาญเพียงพอ แต่ควรเปิดให้เอกชนเป็นผู้เข้ามาดำเนินการแทนจะเหมาะสมกว่า พร้อมทั้งเสนอให้กระทรวง เตรียมร่างทีโออาร์ในเรื่องดังกล่าว เพื่อเปิดให้ภาคเอกชนที่สนใจเข้ามานำเสนอแผนการบริหารจัดการ
ด้าน นายชุมพล ศิลปอาชา กล่าวภายหลังการประชุมว่า ความคืบหน้าด้านการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติในขณะนี้นั้นแล้วเสร็จไปแล้วกว่า 80% ซึ่งถือว่ายังเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด มั่นใจว่า การก่อสร้างทั้งหมดจะแล้วเสร็จทันตามสัญญาภายในวันที่ 25 ม.ค.2555 อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมในส่วนของงบประมาณในการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม อาทิเช่น รั้วล้อมรอบบริเวณงาน ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้ทางกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมที่จะเสนอของบประมาณในส่วนดังกล่าวจากรัฐบาลอีก 450 ล้านบาท โดยจะนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในการประชุมวัยอังคารที่ 18 ต.ค.นี้
สำหรับกรณีการบริหารงานของศูนย์ประชุมนั้น นายชุมพล กล่าวว่า จะเป็นการเปิดให้เอกชนเป็นผู้เข้ามาดำเนินการบริหารงาน โดยจะต้องดูในรายละเอียดของภาคเอกชนว่ามีแนวทางในการเข้ามาบริหารจัดการอย่างไร ซึ่งทางกระทรวงจะมีการกำหนดกรอบกว้างๆ เอาไว้ก่อน และหลังจากการก่อสร้างทั้งหมดแล้วเสร็จจะเปิดให้เอกชนที่สนใจได้นำเสนอแผนการบริหารจัดการศูนย์ประชุมฯ เพื่อให้กระทรวงพิจารณาแผนงานที่เหมาะสมที่สุดต่อไป
ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ได้เสนอให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งคณะกรรมการจากท้องถิ่นให้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศูนย์ประชุม นั้น นายชุมพล กล่าวว่า คงจะยังไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในช่วงนี้ เนื่องจากต้องรอให้ได้ภาคเอกชนที่จะเข้ามาบริหารจัดการศูนย์ประชุมอย่างเป็นทางการเสียก่อน รวมทั้งต้องพิจารณาแผนการจัดการของภาคเอกชนที่เข้ามาดำเนินการด้วยว่าจะบริหารศูนย์ประชุมไปในทิศทางใด