พระนครศรีอยุธยา/สระบุรี - สถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเก่านับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ล่าสุดถนนพหลโยธิน เส้นวังน้อย-สระบุรีน้ำท่วมสูงแล้วกว่า 2 เมตร ด้าน “นิคมฯไฮเทค” ก็เริ่มวิกฤตหนักน้ำซึมทางทิศใต้ ล่าสุดน้ำได้ทะลักเข้าท่วมแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่เร่งช่วย ปชช.นอกเกาะเมือง-หวั่นแรงคลื่นทำพนังพัง
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ถึงสถานการณ์น้ำท่วมวันนี้ (13 ต.ค.) ว่า สถานการณ์น้ำท่วมบนถนนพหลโยธิน เส้นวังน้อยมุ่งหน้าไปสระบุรี ขณะนี้การจราจรนั้นติดขัดเป็นอัมพาตตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
ล่าสุด ขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางจุดสูงกว่า 2 เมตร มีรถจอดเสียข้างทางอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ตำรวจทางหลวงสั่งปิดเส้นทางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 51-85 โดยขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางถนนพหลโยธิน เพราะว่าการจราจรติดขัดยาว 6-10 กิโลเมตร รวมทั้งภายในมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ช่วง อ.วังน้อย ระดับน้ำทะลักเข้าท่วมสูง 1.20 เมตร พระสงฆ์และประชาชนเร่งช่วยขนพระไตรปิฎกกว่า 10,000 เล่มหนีน้ำ
สำหรับผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้ขอให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางรังสิต บ้านนา นครนายก หรือว่าใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 304 แทน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ระดมเร่งอุดรอยรั่วทางทิศใต้นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีน้ำรั่วซึมเข้ามา แต่พยายามหลายทางแล้วไม่สามารถอุดได้ ปริมาณน้ำซึมเพิ่มเข้ามามาก และเจ้าหน้าที่ได้เร่งให้อพยพออกมาจากพื้นที่แล้ว ซึ่งแรงดันน้ำอัดจนแนวกั้นเอาไม่อยู่ แถมคันดินยังเป็นดินโคลนอีก ในนิคมไฮเทคมีหอพักด้วย ยังมีคนอาศัยอยู่ภายในหอพักที่ยังออกมาไม่หมด
น้ำทะลักท่วมถนนด้านในนิคมฯ ไฮเทคแล้ว
ล่าสุด (11.00 น.) มีรายงานข่าวว่า แม้เจ้าหน้าที่จะเร่งระดมกำลังอย่างหนักในการอุดรอยรั่ว เพื่อป้องกันไม่ให้กระแสน้ำเข้าสู่ภายในนิคม ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่า 140 แห่ง โดยล่าสุด น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมถนนด้านในของนิคมฯ หมดแล้ว และยังไหลต่อเนื่อง แม้จะมีความพยายามซ่อมแซมคันดิน แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำค่อนข้างแรงและท่วมสูงกว่าคันดินมาก
เร่งช่วย ปชช.นอกเกาะเมือง
หวั่นแรงคลื่นทำพนังพัง
ศูนย์บัญชาการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพระนครศรีอยุธยา มี นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ในที่ประชุม เร่งบูรณาการจัดทำแผนปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนรอบนอกเกาะเมือง
จากที่ น.อ.อารัก แท่งเอี่ยม รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พร้อมกับเรือของกองทัพเรือ ได้ตระเวนออกให้ความช่วยเหลือเมื่อวานนี้ กล่าวว่า จากการที่นำเรือไปอพยพคนในเกาะเมืองมีเพิ่มเติมอีก 300 - 400 คน จึงมองว่าคนในเกาะเมืองเหลือน้อยมาก เหลือแต่ผู้ที่อยู่ห่างไกลที่ยังเข้าไปไม่ถึงเท่านั้น จึงต้องรอให้มีการแจ้งเข้ามา จากนี้ไปควรจะเป็นเรื่องของการสนับสนุนเสบียงและน้ำ นำเข้าไปช่วยในส่วนที่ตกค้าง
ด้าน พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีเรือสกู๊ตเตอร์ของช่อง 3 ที่นำมาใช้แจกถุงยังชีพว่า ทำให้เกิดคลื่นแรงอาจมีผลกระทบทำให้พนังกั้นน้ำที่ทำป้องกันไว้เสียหายได้ จึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำ รวมถึงจัดลำดับเรือของส่วนราชการและเอกชนที่จะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย
ตั้งโรงครัว 20 จุดใน 11 อำเภอช่วยเหลือ ปชช.
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนแนวทางการช่วยเหลือประชาชนนั้น มีการตั้งโรงครัวเพื่อประกอบอาหารบรรจุใส่กล่องแบบสำเร็จรูป โดยทั้ง 11 อำเภอ มีจำนวน 20 จุด ที่ศาลากลางจังหวัดจำนวน 10 ครัว เมื่อประกอบอาหารเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารเรือ ตำรวจน้ำ จะนำเข้าไปมอบให้กับประชาชนตามบ้าน
ขณะที่อีกแนวทางหนึ่ง คือ การจัดส่งข้าวสาร อาหารแห้ง ส่งให้ทุกอำเภอในรอบ 7 วัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ได้อพยพออกมาพักพิงที่ศูนย์อพยพเกือบหมดแล้ว ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการซ่อมพนังกั้นน้ำในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค เพื่อป้องกันไม่ให้ไหลทะลักเข้าไปในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนพยายามต่อสู้อย่างเต็มที่