นครปฐม - จังหวัดนครปฐมเร่งระดมแจกกระสอบทรายชาวบ้านน้ำไปป้องกันน้ำท่วม พร้อมสั่งเฝ้าจับตาสถานการณ์น้ำวันพรุ่งนี้(13) อย่างใกล้ชิด คาดอาจสูงขึ้น
วันนี้ (12 ต.ค.) นายมรกต คงทน ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ได้รับแจ้งจากนายชูชาติ รักจิตร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครปฐม ว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนครปฐม โดยพิจารณาจากสภาพน้ำท่าเป็นเกณฑ์ ยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ช่วงตั้งแต่อำเภอบางเลน-อำเภอสามพราน นอกจากนี้ ในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดนครปฐม ก็มีน้ำท่วมขังอยู่
โดยช่วงเวลา 13.00 น.ที่เขตเทศบาลนครนครปฐมได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักกินเวลา ประมาณ 40 นาที จึงได้หยุดลง ทำให้ประชาชนคลายความกังวลลงไปได้ เนื่องจากบริเวณ โดยบริเวณรอบองค์พระปฐมเจดีย์ นั้นหากมีฝนตกหนัก เพียง 1-2 ชั่วโมง บางครั้งจะมีน้ำท่วมขึ้นสูง 40 เซนติเมตร มาเป็นระยะแต่สามารถระบายลงคลองเจดีย์บูชาได้ในราว 2-3 ชั่วโมง แต่ในช่วงที่มีสภาวะน้ำท่วมทั่วประเทศ และหลายอำเภอในจังหวัดนครปฐมทำให้ประชาชนเกิดความหวั่นใจว่าการระบายน้ำลงสู่คลองเจดีย์บูชาที่มี่ระดับน้ำช่วงถนนเทศา ซอย 7-8 ที่มี่ประตูกั้นน้ำจะรับระดับน้ำไม่ได้และเข้าท่วมตัวเมืองนครปฐม ดั่งในปี 38 ซึ่งฝนที่ตกลงไม่มากจึงทำให้คลายความวิตกลงไปได้ระดับหนึ่ง
สำหรับสภาพน้ำท่าในแม่น้ำท่าจีน ที่จุดตรวจวัดระดับน้ำและปริมาณน้ำมี 4 จุด เมื่อวันที่ 12 ต.ค.54 เวลา 06.00 น.คือ ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ระดับน้ำท่าจีน 3.23 เมตร จากระดับตลิ่ง 3.00 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 23 เซนติเมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ สถานีวัดน้ำบางไทรป่า ระดับน้ำท่าจีน 2.69 เมตรจากระดับตลิ่ง 2.20 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 49 เซนติเมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ
สถานีวัดน้ำนครชัยศรี ระดับน้ำท่าจีน 3.23 เมตร จากระดับตลิ่ง 3.00 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 46 เซนติเมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 3 เซนติเมตร สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ สถานีวัดน้ำสามพราน ระดับน้ำท่าจีน 3.71 เมตร จากระดับตลิ่ง 4.00 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 29 เซนติเมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2554 ลดลง 3 เซนติเมตร สถานการณ์ยังเฝ้าระวังอยู่ ส่วนสภาพน้ำท่าในคลองสายสำคัญ ได้แก่
คลองพระยาบันลือ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 25 เซนติเมตร ระดับตลิ่งใหม่ 3.50 เมตร เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 11 ต.ค.54 เพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร ปิดบานระบายด้านติดแม่น้ำท่าจีนสูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณน้ำ 14.40 ลบ.ม.ต่อวินาที คลองพระพิมล มีการเสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม ทำให้ระดับน้ำวันนี้สูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 43 เซนติเมตร เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 11 ต.ค.54 เพิ่มขึ้น 3 เซนติเมตร จึงต้องเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 22.25 ลบ.ม.ต่อวินาที และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด,
คลองมหาสวัสดิ์ มีการเสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม ทำให้ระดับน้ำวันนี้สูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 29 เซนติเมตร เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 11 ต.ค.54 เพิ่มขึ้น 5 เซนติเมตร มีการปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน และเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 13.75 ลบ.ม.ต่อวินาที และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด, คลองบางภาษี ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 60 เซนติเมตร เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 11 ต.ค.54 ลดลง 25 เซนติเมตร ซึ่งมีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง ต้องปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน และเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 18.00 ลบ.ม.ต่อวินาที
คลองลำพญา มีการเสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 55 เซนติเมตร เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 11 ต.ค.54 เพิ่มขึ้น 5 เซนติเมตร ซึ่งมีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง จึงต้องปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน และเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 2.00 ลบ.ม.ต่อวินาที และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด คลองประชาศรัย มีการเสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม ระดับน้ำวันนี้ (12 ต.ค.) สูงกว่าตลิ่ง 51 เซนติเมตร เปรียบเทียบเมื่อวันที่ 11 ต.ค.54 เพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร ซึ่งมีปัญหาน้ำล้นตลิ่งเช่นกัน จึงต้องปิดบานระบายน้ำด้านติดแม่น้ำท่าจีน และเร่งระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนด้วยปริมาณ 2.40 ลบ.ม.ต่อวินาที และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดซึ่งขณะนี้ จังหวัดนครปฐมจึงได้ประสานกับ สนง.ชลประทานที่ 13 ให้ควบคุมลดปริมาณน้ำในคลองชลประทาน และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งกำจัดวัชพืชสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างเร่งด่วนแล้ว
นอกจากนี้ ยังให้มีการผลักดันน้ำจากคลองธรรมศาลา ตำบลธรรมศาลา อำเภอเมือง ไปเข้าคลองบึงกุมบึงช้างหรือบึงบางระกำ อำเภอนครชัยศรี ลงคลองจินดา อำเภอสามพราน เพื่อที่จะได้ผลักดันลงสู่ทะเล และสั่งการให้ผลักดันน้ำพร้อมกัน 4 จุด ที่สะพานวัดเทียนดัด สะพานอำเภอสามพราน สะพานโพธิ์แก้ว และสะพานวัดไร่ขิงอีกด้วย
ส่วนสถานการณ์น้ำในวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งตรวจสอบแนวป้องกัน โดยพิจารณาจากข้อมูลระดับน้ำ ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง ต.บางเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ระดับน้ำวัดได้ 3.23 เมตร สูงกว่าระดับตลิ่ง 23 เซนติเมตร (ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา 2 ซม.) และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังพื้นที่เกษตร ในเขต อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กำลังไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน ปริมาณน้ำที่ไหลบ่ามาจากพื้นที่เกษตรด้านบน (ทุ่งผักไห่และทุ่งเจ้าเจ็ด) ทำให้ระดับน้ำในคลองพระยาบันลือ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขณะนี้ต่ำกว่าตลิ่งหรือแนวป้องกันที่เสริมใหม่อยู่ 25 เซนติเมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา 2 เซนติเมตร (ระดับตลิ่งใหม่ 3.50 เมตร) และได้มีการเปิดบานระบาย เพื่อรับน้ำเข้าพื้น ที่เกษตรฝั่งซ้ายของแม่น้ำท่าจีน บริเวณตำบลบัวปากท่า อำเภอบางเลน ซึ่งจะส่งผลถึงอำเภอนครชัยศรี และอำเภอพุทธมณฑลโดยตรง
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ผู้ประกอบการธุรกิจบ่อทรายได้ถูกแจ้งให้มีการระดมดูดทรายขึ้นเตรียมสต๊อก เพื่อส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ลำเลี้ยงไปสู่จังหวัดปทุมธานีเพื่อทำแนวกั้นและพนักกั้นน้ำที่กำลังถาโถมใส่ตัวเมืองโดยด่วน ซึ่งปริมาณทรายที่มีอยู่ในพื้นที่หลายบ่อนั้นหมดลงแล้ว ทำให้ประชาชนหลายรายหวั่นใจว่าหากเกิดน้ำท่วมขึ้นสูงในจังหวัดนครปฐมจะไม่มีทรายเพียงพอสำหรับทำแนวป้องกันระดับน้ำได้ดังเช่นในจังหวัดอื่น
ส่วนที่เทศบาลตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน ซึ่งมีพื้นที่ติดกับแม่น้ำท่าจีนและมีทั้งวัดไร่ขิง โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ อยู่ในพื้นที่นั้นได้มีการเร่งแจกจ่ายกระสอบทรายให้กับชาวบ้านอย่างเร่งด่วนเช่นกัน เพราะมีการคาดการณ์สถานการน้ำท่วมขังเพิ่มขึ้นและมีรายงานข่าวระดับน้ำสูงขึ้นตลอดเวลา ขณะเดียวกันชาวบ้านในอำเภอบางเลนได้เกิดความหวั่นใจเนื่องจากมีกระแสข่าวแนวกั้นน้ำที่จังหวัดอยุธยาได้พังทลายลง และคาดว่า น้ำจะทะลักเข้ามาสมทบกับน้ำในแม่น้ำท่าจีนซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมกินบริเวณเพิ่มขึ้นก็ได้
ส่วน พล.อ.ต.ศิวเกียรติ์ ชเยมะ ผบ.รร.การบิน ผอ.ศบภ.รร.การบิน ได้มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 200 ถุง โดยโรงเรียนการบิน ร่วมกับ บริษัท โล้วเฮงหมง ซึ่งบริจาคข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่มจำนวน 200 ชุด ณ อบต.บางหลวง อ.บางเลน จ.นครปฐม ทั้งนี้ ผบ.รร.การบิน ตรวจเยี่ยม พื้นที่ ตลาดบางหลวง รศ.122 ที่ขณะนี้มวลน้ำในแม่น้ำท่าจีนได้เข้าท่วมชุมชนตลาดบางหลวง รศ.122 แล้ว พร้อมสนับสนุนกำลังพลบรรจุกระสอบทรายเพื่อสร้างแนวกั้นน้ำให้สูงขึ้นอีกด้วยเพื่อป้องกันเข้าสู่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง
โดย พ.ต.อ.ณรงค์ ทรัพย์เย็น รองผู้บังคับการกองบังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผุ้ประสบอุทกภัยขึ้น สามารถบริจาคเงินและสิ่งของได้ที่ทำการตำรวจภูธรภาค 7 โดยบริจาคเงินผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขานครปฐม ประเภทออมทรัพย์ เลขที่ 701-0-88898-1 ชื่อบัญชี “ช่วยเหลือผ้ประสบอุทกภัยและครอบครัวตำรวจภูธรภาค 7” ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลข 034-245990-9, 084-4694460