ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองปลัดเทศบาลเมืองหนองปรือ อำเภอบางละมุง นำคณะสื่อมวลชนลงสำรวจพื้นที่น้ำท่วม เพื่อกำหนดแนวทางให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ขณะที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ พัทยา ระดมสิ่งของ พร้อมกำลังคน จัดคาราวานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันนี้ (10 ต.ค.) ร.ต.ปราโมทย์ ทับทิม รองปลัดเทศบาลเมืองหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ได้นำคณะผู้สื่อข่าวออกสำรวจสถานการณ์น้ำท่วม จนส่งผลกระทบต่อประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาล โดยจุดแรกได้นำไปดูบริเวณคลองมาบตาโต้ หน้าโรงเรียนวัดสุทธาวาส หมู่ 13 ตำบลหนองปรือ พบว่า กำแพงและบริเวณห้องครัวหลังบ้านเลขที่ 29/7 ของนางแต๋ว บุญมณี อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกอยู่ติดกับลำคลอง ได้ถูกกระแสน้ำพัดจนพังถล่มเสียหาย
นางแต๋ว เล่าว่า ได้พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกับลูกสาวและลูกเขย ซึ่งในกลางดึกที่ผ่านมา ขณะกำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้าน ท่ามกลางฝนตกลงมาอย่างหนัก ได้ยินเสียงพื้นครัวหลังบ้านพัง จึงรีบหนีตายออกมาด้านนอก เพราะกลัวว่าบ้านจะพังทั้งหลัง ส่วนสาเหตุอาจเป็นเพราะลำคลองช่วงบริเวณดังกล่าวมีลักษณะโค้ง ทำให้กระแสน้ำที่ไหลมาพุ่งเข้าชนกำแพงบ้านและทำให้พื้นครัวทรุดตัว ซึ่งเบื้องต้นเทศบาลได้นำหินขนาดใหญ่มาทำการซ่อมแซมให้ชั่วคราวแล้ว
ด้าน ร.ต.ปราโมทย์ เผยว่า จากการสำรวจพื้นที่ พบว่า ระหว่าง 1-2 วันนี้ ที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ได้สร้างความเสียหายให้กับประชาชนในวงกว้าง แต่มีชาวบ้านที่ถูกน้ำกัดเซาะบ้านเรือนจนพังเสียหายประมาณ 5 หลังคาเรือน และมีท่อระบายน้ำรวมถึงถนนหนทางเสียหายนับ 10 แห่ง ซึ่งเรื่องนี้ได้รายงานไปยังนายกเทศบาลเมืองหนองปรือ และนายอำเภอบางละมุง ให้ทราบแล้ว
เบื้องต้นจะได้ทำเรื่องของบประมาณจากรัฐบาลมาช่วยเหลือชาวบ้านรายละ 5,000 บาท ในส่วนของเทศบาลก็มีงบประมาณอยู่อีกจำนวนหนึ่งไว้รองรับ ซึ่งจะได้เร่งทำการสำรวจพื้นที่ความเสียหายอีกครั้ง เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนต่อไป
สว่างบริบูรณ์พัทยา
ปล่อยคาราวานช่วยน้ำท่วมเมืองอยุธยา
ขณะที่ มูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา ได้ทำพิธีปล่อยขบวนคาราวานรถยนต์กว่า 10 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยอีก 20 นาย ภายใต้การนำของ นายประสิทธิ์ ทองทิตย์เจริญ รองประ ธานมูลนิธิ เพื่อเดินทางนำสิ่งของจำเป็น เครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ มาม่า, นม, น้ำดื่ม, ข้าวสาร, อาหารแห้ง ที่ประชาชนชาวพัทยาบริจาค พร้อมด้วยเรือยนต์ 6 ลำ เจ็ตสกี 1 ลำ เพื่อไปช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดย นายประสิทธิ์ เผยว่า การเดินทางในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่เข้าไปในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ เนื่องจากสภาพปัญหายังไม่ยุติ และยังขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลายหน่วยงานก็กำลังระดมความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่จนกว่าสถานการณ์จะยุติ
วันนี้ (10 ต.ค.) ร.ต.ปราโมทย์ ทับทิม รองปลัดเทศบาลเมืองหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ได้นำคณะผู้สื่อข่าวออกสำรวจสถานการณ์น้ำท่วม จนส่งผลกระทบต่อประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาล โดยจุดแรกได้นำไปดูบริเวณคลองมาบตาโต้ หน้าโรงเรียนวัดสุทธาวาส หมู่ 13 ตำบลหนองปรือ พบว่า กำแพงและบริเวณห้องครัวหลังบ้านเลขที่ 29/7 ของนางแต๋ว บุญมณี อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกอยู่ติดกับลำคลอง ได้ถูกกระแสน้ำพัดจนพังถล่มเสียหาย
นางแต๋ว เล่าว่า ได้พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกับลูกสาวและลูกเขย ซึ่งในกลางดึกที่ผ่านมา ขณะกำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้าน ท่ามกลางฝนตกลงมาอย่างหนัก ได้ยินเสียงพื้นครัวหลังบ้านพัง จึงรีบหนีตายออกมาด้านนอก เพราะกลัวว่าบ้านจะพังทั้งหลัง ส่วนสาเหตุอาจเป็นเพราะลำคลองช่วงบริเวณดังกล่าวมีลักษณะโค้ง ทำให้กระแสน้ำที่ไหลมาพุ่งเข้าชนกำแพงบ้านและทำให้พื้นครัวทรุดตัว ซึ่งเบื้องต้นเทศบาลได้นำหินขนาดใหญ่มาทำการซ่อมแซมให้ชั่วคราวแล้ว
ด้าน ร.ต.ปราโมทย์ เผยว่า จากการสำรวจพื้นที่ พบว่า ระหว่าง 1-2 วันนี้ ที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ได้สร้างความเสียหายให้กับประชาชนในวงกว้าง แต่มีชาวบ้านที่ถูกน้ำกัดเซาะบ้านเรือนจนพังเสียหายประมาณ 5 หลังคาเรือน และมีท่อระบายน้ำรวมถึงถนนหนทางเสียหายนับ 10 แห่ง ซึ่งเรื่องนี้ได้รายงานไปยังนายกเทศบาลเมืองหนองปรือ และนายอำเภอบางละมุง ให้ทราบแล้ว
เบื้องต้นจะได้ทำเรื่องของบประมาณจากรัฐบาลมาช่วยเหลือชาวบ้านรายละ 5,000 บาท ในส่วนของเทศบาลก็มีงบประมาณอยู่อีกจำนวนหนึ่งไว้รองรับ ซึ่งจะได้เร่งทำการสำรวจพื้นที่ความเสียหายอีกครั้ง เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนต่อไป
สว่างบริบูรณ์พัทยา
ปล่อยคาราวานช่วยน้ำท่วมเมืองอยุธยา
ขณะที่ มูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา ได้ทำพิธีปล่อยขบวนคาราวานรถยนต์กว่า 10 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยอีก 20 นาย ภายใต้การนำของ นายประสิทธิ์ ทองทิตย์เจริญ รองประ ธานมูลนิธิ เพื่อเดินทางนำสิ่งของจำเป็น เครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ มาม่า, นม, น้ำดื่ม, ข้าวสาร, อาหารแห้ง ที่ประชาชนชาวพัทยาบริจาค พร้อมด้วยเรือยนต์ 6 ลำ เจ็ตสกี 1 ลำ เพื่อไปช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดย นายประสิทธิ์ เผยว่า การเดินทางในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่เข้าไปในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ เนื่องจากสภาพปัญหายังไม่ยุติ และยังขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลายหน่วยงานก็กำลังระดมความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่จนกว่าสถานการณ์จะยุติ
