xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านเขาคันทรง บุกพบ ส.ส. ชลบุรี และทนายความ ช่วยถูกไล่ที่อยู่อาศัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา-ชาวบ้านเขาคันทรง บุกพบ ส.ส. ชลบุรี และทนายความ ที่ทำการพรรคพลังชล เพื่อให้ช่วยเหลือหลังถูกนายทุนขับไล่ ด้าน ส.ส. รับเรื่องพร้อมเตรียมเรียกทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจรจาหาข้อยุติ ซึ่งเรื่องยึดเยื้อมานานกว่า 4 ปีแล้ว

วันนี้ (1 ต.ค. 2554) ณ.ที่ทำการพรรคพลังชล องเมือง จ.ชลบุรี นางเจือ หรั่งสาตร์ชาวบ้านสุรศักดิ์ กลุ่มท้ายห้วย หมู่ที่ 5 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมเพื่อนบ้านประมาณ 10 คน ได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือ จากนายพันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี พร้อมทนายความประจำสำนักงานพรรคพลังชล กรณีถูกโรงงานน้ำตาลตะวันออก ฟ้องขับไล่ให้พวกตนออกจากที่ดินแปลงนี้ ทั้งๆที่อยู่อาศัยมานานกว่า 50 ปีแล้ว สร้างความเดือดร้อนให้กับพวกตนเป็นอย่างมาก

ขณะนี้พวกตนถูกฟ้องร้องและให้ออกจากบริเวณดังกล่าวไปแล้ว จำนวน 3 หลัง และในช่วงนี้ทางบริษัทฯกำลังฟ้องร้องขับไล่ให้พวกตนที่เหลืออีกประมาณ 30 หลังคาเรือน ให้ออกในเร็วๆนี้ ทำให้พวกตนไม่มีที่อยู่อาศัย จึงต้องมาของความช่วยเหลือจาก ส.ส.ชลบุรี ครั้งนี้ เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือปัญหาที่เกิดขึ้น

นายพันธุ์ศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางตนพร้อมทนายความ ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ โดยเบื้องต้นได้ขอเอกสารจากชาวบ้านทั้งหมด เพื่อนำมาศึกษาข้อมูลต่างๆที่เกิดขึ้น เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว โดยยังไม่ทราบว่าใครผิดใครถูกหรือใครอยู่มาก่อนในที่ดินแปลงดังกล่าว ดังนั้นจึงต้องนำข้อมูลมาให้ทนายความ มาศึกษาก่อน

หลังจากนั้นจะเรียกถูกหน่วยงาน พร้อมคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาร่วมประชุมปรึกษาหารือ เพื่อหาการดำเนินการต่อไป ซึ่งการเจรจาในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเจรจาครั้งสุดท้าย หากที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของบริษัทฯจริง ชาวบ้านต้องยอมย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าวในทันที โดยทางบริษัทฯจะต้องดำเนินการจ่ายเงินค่าชดเชยในการรื้อถอนและการขนย้ายด้วย

นายพันธุ์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เกิดมานานหลายปีแล้ว โดยชาวบ้านได้ไปขอความช่วยเหลือจากอดีต ส.ส. ในสมัยที่ผ่านมา แต่ทาง ส.ส.ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลย ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนดังกล่าว และขณะนี้ที่เกิดขึ้นทางบริษัทฯ มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายมาโดยตลอด ทำให้ชาวบ้านซึ่งไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมายเลย สู่กลุ่มนายทุนไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมาขอความช่วยเหลือ ก็ต้องมีการเจรจากัน ผลออกมาอย่างไรก็ตามทางชาวบ้านก็ต้องยอมรับในผลการเจรจาครั้งนี้

ด้านนางเจือ กล่าวว่า ทางชาวบ้านพร้อม หากผลการเจรจาในครั้งนี้ออกมาเช่นไร เพราะที่ผ่านมา ไม่มีการเจรจาพูดคุยกันครบทุกฝ่ายเลย ทำให้ความเข้าใจของทั้ง 2 ฝ่ายไม่ตรงกัน และเมื่อมีการเจรจาในครั้งนี้ โดยทั้ง 2 ฝ่ายนำหลักฐานที่มีอยู่มาเผยแพร่ และมีทนายความ ซึ่งเป็นคนกลางมาช่วยตรงสอบ หากนายทุนถูกต้องก็พร้อมจะออกจากพื้นที่ดังกล่าวในทันที เพราะที่ผ่านมายังไม่มีความชัดเจนแต่อย่างไร

“การเจรจาในครั้งนี้ ตนก็ขอให้เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งจะถูกหรือผิดก็ให้มีความชัดเจนในครั้งนี้เลย เพราะจะได้ไปทำมาหากินกันเสียที เพราะมัวแต่วิ่งขอความช่วยเหลือ จนเงินทองที่มีอยู่ใกล้หมดแล้ว”นางเจือ กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น