กรุงเก่าระทม!! น้ำหนุนสูง ประกาศเตือนเตรียมย้ายคนหนี

อยุธยา-สถานการณ์น้ำท่วมพระนครศรีอยุธยายังหนัก แม่น้ำป่าสักหนุนต่อเนื่อง จนขยายวงกว้าง ผู้ว่าฯ เรียกประชุมทุกอำเภอ ประกาศเตือนรับน้ำหนุนสูง พร้อมสั่งเตรียมขนย้ายหนีทันที ด้านพระสงฆ์วัดท่าโขง ขนของหนีน้ำท่วมสูง

วันนี้ ( 1 ต.ค.) สถานการณ์น้ำที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำในแม่น้ำป่าสัก เจ้าพระยา ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกทั้งยังขยายวงกว้างเข้าท่วมบ้านเรือนชั้นเดียวใกล้มิดหลังคา ชาวบ้านเดือดร้อนหนักเนื่องจากระดับน้ำหนุนขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง

โดยนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เรียกประชุมนายอำเภอทั้ง 16 อำเภอ เป็นการด่วน เนื่องจากสถานการณ์น้ำยังวิกฤตหนักและน้ำจำนวนมหาศาลจะไหลมาสู่อยุธยา จึงต้องเตรียมรับมือ และสั่งการให้แต่ละอำเภอประสานหน่วยงานเทศบาล อบต. กำนัน และผู้ใหญ่บ้านให้สำรวจและกำหนดสถานที่ปลอดภัยหากเกิดวิกฤตต้องอพยพคนได้ทันที จึงได้ออกประกาศเตือนให้ชาวบ้านเตรียมตัวเฝ้าระวัง

ที่ อ.ท่าเรือ อ.บ้านแพรก อ.บางบาล ระดับน้ำยังสูงบ้านเรือนยังจมบาดาล ที่หมู่บ้าน อรัญญิก ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง เป็นหมู่บ้านตีมีดที่มีชื่อเสียง น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตรต้องปิดหมู่บ้านหนีน้ำและน้ำยังสูงขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่ อ.บางปะอินระดับน้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงเข้าท่วมบ้านชั้นเดียวมิดหลัง โดยนางประนอม พรเพชร อายุ 43 ปี ชาวตำบลบ้านโพบอกว่าปลูกบ้านชั้นเดียวน้ำได้ท่วมบ้านจนมิดหลังคาบ้านแล้วต้องอพยพมาอยู่ริมถนนน้ำท่วมทุกปีแต่ปีนี้น้ำมากกว่าปีที่แล้ว

ขณะเดียวกันที่ประตูระบายน้ำบ้านโพธิ์ ต.บ้านหว้า มีชาวบ้านกว่า 50 คน บุกไปจะพังประตูน้ำและไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่วางกระสอบทรายกั้น จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น นายนัทธี บ่อสุวรรณ นายอำเภอบางปะอิน ต้องเดินทางไปเจรจาผลสรุปไม่ให้วางกระสอบทรายกั้นน้ำให้น้ำล้นบานประตูเข้าไปชาวบ้านพอใจแยกย้ายกันกลับ

ทางด้านพระสงฆ์วัดท่าโขง ต้องลุยน้ำพร้อมแบกบาตรพระ นำลูกศิษย์หนีน้ำที่เข้าท่วมสูงด้วยความลำบาก

นายศุภฤกษ์ กลั่นกล้า นายก อบต.สามเรือน บอกว่า ประตูน้ำบ้านโพธิ์ระดับน้ำสูงเหลืออีกเพียง 20 ซ.ม.น้ำจะไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกว่า 50,000 ไร่และนิคมอุตสาหกรรมอีก 3 แห่ง เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญรวม 4 อำเภอ บางปะอิน อุทัย พระนครศรีอยุธยาและวังน้อย อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้สั่งการเฝ้าระวังตลอดเวลาเพื่อป้องกันอย่างเต็มที่