พระนครศรีอยุะยา - ชาวบ้านในตำบลกุฎี ผักไห่ พระนครศรีอยุธยากว่า 700 หลังคาเรือนติดเกาะกลางน้ำ หลังถูกน้ำท่วมล้อมรอบ ทำให้การเข้า-ออกด้วยการพายเรือเพียง 6 กิโลเมตรจะต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง
วันนี้ (27 ก.ย.) เวลา 11.00 น.ชาวบ้านในพื้นที่ ต.กุฎี อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 700 หลังคาเรือน ต้องติดเกาะอยู่กลางน้ำ หลังถูกน้ำจากแม่น้ำน้อยไหลเข้าท่วมทุ่งบางบาล และทุ่งผักไห่ ประมาณ 45,000 ไร่ ทำให้ชาวบ้านทั้งหมดถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เพราะรถทหารที่เคยวิ่งรับ-ส่ง ชาวบ้านได้หยุดให้บริการมาแล้ว 2 วันแล้ว เนื่องจากน้ำท่วมผิวการจราจรสูงกว่า 1.80 ซม.ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารเกรงว่า รถยนต์ที่วิ่งลุยน้ำจะทำให้น้ำไหลเข้าไปในเครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย โดยขณะนี้ชาวบ้านทั้งหมดที่อยู่ในชุมชนดังกล่าวต้องใช้เรือในการสัญจรเพียงอย่างเดียว
ชาวบ้านรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ชุมชน ต.กุฎี อ.ผักไห่ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกแล้วและบางบ้านที่ไม่มีเรือจะต้องอาศัยเพื่อนบ้านออกมา ระยะทางจาก ต.กุฎี ออกมาถนนใหญ่ใน อ.ผักไห่ ประมาณ 6 กิโลเมตร บางบ้านที่ไม่มีเรือติดเครื่องยนต์จะต้องพายออกมาเพียงอย่างเดียว และจะใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง สำหรับการออกมาเพียง 1 เที่ยว แต่หากพายกลับเข้าไปในบ้านก็จะต้องใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมง และหากเป็นเรือเครื่องจะต้องใช้เวลาประมาณ 30 นานี จึงจะถึงชุมชน
นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่ชาวบ้านกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก คือ เมื่อมีลมพายุเกิดขึ้นในช่วงที่มีการสัญจรเข้าไปในชุมชน ชาวบ้านที่พายเรือจะต้องใช้เวลาอีก 1 เท่าตัวในการเดินทาง
ส่วนทางหลวงหมายเลข 3412 บางบาล-ผักไห่ระทางประมาณ 12 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรของชาวบ้าน อ.ผักไห่ รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถวิ่งได้ตามปกติแล้ว เนื่องจากน้ำท่วมสูง ทำให้ชาว้บาน อ.บางบาล และ ต.เอกราช อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ถูกน้ำท่วมได้รับความเดือดร้อนด้วย เพราะน้ำบ่าออก 2 ฝั่งถนน จนชาวบ้านทั้ง 2 จังหวัด รวมแล้วกว่า 1,000 ครัวเรือน ตลอดจนบ่อทรายขนาดใหญ่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย และชาวบ้านเดือดร้อนทั้งหมด
วันนี้ (27 ก.ย.) เวลา 11.00 น.ชาวบ้านในพื้นที่ ต.กุฎี อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 700 หลังคาเรือน ต้องติดเกาะอยู่กลางน้ำ หลังถูกน้ำจากแม่น้ำน้อยไหลเข้าท่วมทุ่งบางบาล และทุ่งผักไห่ ประมาณ 45,000 ไร่ ทำให้ชาวบ้านทั้งหมดถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เพราะรถทหารที่เคยวิ่งรับ-ส่ง ชาวบ้านได้หยุดให้บริการมาแล้ว 2 วันแล้ว เนื่องจากน้ำท่วมผิวการจราจรสูงกว่า 1.80 ซม.ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารเกรงว่า รถยนต์ที่วิ่งลุยน้ำจะทำให้น้ำไหลเข้าไปในเครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย โดยขณะนี้ชาวบ้านทั้งหมดที่อยู่ในชุมชนดังกล่าวต้องใช้เรือในการสัญจรเพียงอย่างเดียว
ชาวบ้านรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ชุมชน ต.กุฎี อ.ผักไห่ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกแล้วและบางบ้านที่ไม่มีเรือจะต้องอาศัยเพื่อนบ้านออกมา ระยะทางจาก ต.กุฎี ออกมาถนนใหญ่ใน อ.ผักไห่ ประมาณ 6 กิโลเมตร บางบ้านที่ไม่มีเรือติดเครื่องยนต์จะต้องพายออกมาเพียงอย่างเดียว และจะใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง สำหรับการออกมาเพียง 1 เที่ยว แต่หากพายกลับเข้าไปในบ้านก็จะต้องใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมง และหากเป็นเรือเครื่องจะต้องใช้เวลาประมาณ 30 นานี จึงจะถึงชุมชน
นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่ชาวบ้านกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก คือ เมื่อมีลมพายุเกิดขึ้นในช่วงที่มีการสัญจรเข้าไปในชุมชน ชาวบ้านที่พายเรือจะต้องใช้เวลาอีก 1 เท่าตัวในการเดินทาง
ส่วนทางหลวงหมายเลข 3412 บางบาล-ผักไห่ระทางประมาณ 12 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรของชาวบ้าน อ.ผักไห่ รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถวิ่งได้ตามปกติแล้ว เนื่องจากน้ำท่วมสูง ทำให้ชาว้บาน อ.บางบาล และ ต.เอกราช อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ถูกน้ำท่วมได้รับความเดือดร้อนด้วย เพราะน้ำบ่าออก 2 ฝั่งถนน จนชาวบ้านทั้ง 2 จังหวัด รวมแล้วกว่า 1,000 ครัวเรือน ตลอดจนบ่อทรายขนาดใหญ่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย และชาวบ้านเดือดร้อนทั้งหมด
