ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - น้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่ วันที่ 2 หลายจุดยังไม่บรรเทา ทุกหน่วยงานเร่งระดมกำลังทำกระสอบทรายพร้อมออกแจกถุงยังชีพ-น้ำดื่ม-อาหารกล่อง ขณะที่น้ำยังท่วมต่อเนื่องหลายพื้นที่ แถมลามเข้า ถ.มหิดล ด้วย ส่วนที่ชุมชนป่าพร้าวนอกน้ำยังท่วมหนักในชุมชน น้ำสูงท่วมคอ ชาวบ้านต้องหนีน้ำไปอยู่ชั้น 2 แกนนำชุมชนระบุมีแต่เรือที่ใช้สัญจรได้ ระทึก! ต้องลุ้นต่อคืนนี้หลังมวลน้ำก้อนใหม่จ่อเข้ามาเพิ่ม ด้าน สสจ.ตั้งศูนย์บริการเคลื่อนที่เชิงสะพานป่าแดด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่พร้อมออกปฏิบัติการ เล็งจัดพยาบาลจิตเวชประจำศูนย์ หลังพบจบน้ำท่วมชาวบ้านมีแนวโน้มหดหู่-ซึมเศร้า
สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงบ่ายวันนี้ (29 ก.ย.) แม้ว่าในพื้นที่หลายจุดปริมาณจะค่อยๆ ลดลง แต่ยังคงมีพื้นที่หลายจุดทั่วเขตตัวเมืองเชียงใหม่ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง ขณะที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งประชาชนในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ ยังคงต้องติดตามปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงต่อไปอย่างใกล้ชิด ภายหลังจากที่ศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบนได้แจ้งว่าระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่สถานี P67 บ้านแม่แต อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ กลับเพิ่มขึ้นสูงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
โดยมวลน้ำระลอกนี้จะเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ที่บริเวณสถานีวัดระดับน้ำ P1 สะพานนวรัฐ ตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00-22.00 น.ของคืนนี้เป็นต้นไป และแม้ว่าศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบนจะประเมิน ว่า มวลน้ำระลอกใหม่นี้จะไม่ทำให้ปริมาณน้ำในเมืองเชียงใหม่เพิ่มสูงมากไปกว่าระดับน้ำที่จุด P1 เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันนี้ ซึ่งมีระดับน้ำอยู่ที่ 4.94 ม.ก็ตาม แต่ปริมาณน้ำระลอกใหม่ดังกล่าวจะยังส่งผลให้ในหลายพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ยังคงต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมขังบ้านเรือนต่อไป รวมทั้งอาจขยายวงกว้างออกไปสู่พื้นที่อื่นๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ เทศบาลนครเชียงใหม่ได้จัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือขึ้นภายในบริเวณสถานฌาปนกิจหายยา โดยมีกำลังจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 7 ค่ายกาวิละ และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32, เจ้าหน้าที่จากองค์กรป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, เจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยในจุดดังกล่าวมีการนำทรายมาบรรจุลงกระสอบเพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนและนำไปใช้ป้องกันภัยน้ำท่วมตามจุดต่างๆ รวมทั้งมีการระดมถุงยังชีพ น้ำดื่ม และอาหารกล่องเพื่อนำออกไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน
ขณะที่พื้นที่หลายจุดของเมืองเชียงใหม่ยังคงมีน้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าว โดยน้ำยังคงท่วมขังในบริเวณถนนช้างคลานตลอดทั้งสาย เช่นเดียวกับถนนสายเชียงใหม่-ลำพูนบริเวณย่านหนองหอย และ ถ.สันป่าข่อยจนถึงบริเวณสถานีรถไฟเชียงใหม่ โดยน้ำจากถนนช้างคลานที่ท่วมต่อเนื่องมาจนถึงบริเวณสะพานป่าแดดและหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ได้ไหลท่วมต่อเนื่องมาถึงถนนมหิดลบริเวณทางเข้าหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ ส่วนน้ำบริเวณย่านหนองหอยได้ไหลท่วมเข้าไปถึงหมู่บ้านการเคหะและหมู่บ้านเอื้ออาทรที่อยู่ใกล้เคียงกัน โดยมีส่วนหนึ่งทะลักออกมาท่วมถนนมหิดลบริเวณทางเข้าการเคหะด้วย
นอกจากนี้ น้ำอีกส่วนหนึ่งยังได้ไหลเข้าท่วมเส้นทางรถไฟและถนนเลียบทางรถไฟบริเวณข้างโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยแผนกมัธยม และไหลท่วมจุดกลับรถใต้สะพานยกระดับทั้งสองฝั่ง โดยฝั่งโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยแผนกมัธยมน้ำได้ท่วมไปจนถึงเชิงสะพานข้ามแยกดอนจั่นแล้ว ซึ่งปริมาณน้ำที่ไหลต่อเนื่องจากหลายพื้นที่ได้ส่งผลให้ หลายจุดของ ถ.มหิดลกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมขังเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่ง
ด้านชุมชนต่างๆ ภายในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่หลายแห่งยังคงได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนป่าพร้าวนอกซึ่งเป็นจุดที่น้ำไหลเข้าท่วมอย่างหนัก โดยน้ำได้ท่วมมาถึงบริเวณเชิงสะพานป่าแดด ประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในชุมชนและหมู่บ้านในพื้นที่ดังกล่าวบางส่วนต้องเดินทางลุยน้ำซึ่งสูงถึงประมาณ 1.50 ม.ออกมาหาซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็น หรือออกมาขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งได้ระดมกำลังเข้าให้ความช่วยเหลืออยู่ที่เชิงสะพานป่าแดด
ขณะเดียวกัน เรือของหน่วยงานต่างๆ ทั้งทหาร ตำรวจตระเวนชายแดนและเทศบาลได้นำถุงยังชีพ น้ำดื่ม และอาหารกล่องเข้าไปแจกจ่ายให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งทำหน้าที่รับส่งประชาชนที่ต้องการเข้า-ออกในพื้นที่ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วย หรือจำเป็นต้องอพยพโยกย้าย โดยเฉพาะภายในหมู่บ้านเวียงทองและหมู่บ้านอุ่นเรือนซึ่งถูกน้ำท่วมอย่างหนัก มีประชาชนหลายครอบครัวไม่สามารถออกจากบ้านได้ ต้องอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของบ้านซึ่งน้ำยังท่วมไม่ถึง
นายสุริยา สุริยะธำรงกุล อดีตประธานชุมชนป่าพร้าวนอก กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่นั้นค่อนข้างหนัก มีประชาชนกว่า 400 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งจากน้ำท่วมขังสูง ขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มและไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้อย่างสิ้นเชิง ต้องใช้เรือเป็นพาหนะหลักในการเดินทางเข้าออกเพียงอย่างเดียว
ด้าน นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนของสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ ว่า ได้เตรียมที่จะเปิดศูนย์บริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ขึ้นที่บริเวณเชิงสะพานป่าแดดในวันนี้ เนื่องจากถือเป็นจุดที่มีความเสียหายมากที่สุด โดยในเย็นวันนี้จุดดังกล่าวจะมีแพทย์และพยาบาลเข้าประจำการและพร้อมให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ประชาชนในพื้นที่
ขณะเดียวกัน ได้ประสานกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงใหม่ จัดตั้งชุดเคลื่อนที่อีก 3 ชุด สำหรับเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่อื่นๆ หากมีการร้องขอ รวมทั้งกำลังพิจารณาถึงการตั้งศูนย์บริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ในจุดอื่นๆ ของตัวเมืองเชียงใหม่ด้วย
นพ.วัฒนา กล่าวต่อไปว่า ได้มีการประสานเพื่อขนย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลที่อยู่ในจุดที่ถูกน้ำทมท่วมหนัก ได้แก่ รพ.เซ็นทรัลเมมโมเรียล รพ.ราชเวช และ รพ.แม่และเด็กแล้ว โดยได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยัง รพ.นครพิงค์ และ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ แทน ขณะเดียวกัน ยังได้เตรียมรับมือโรคและอาการเจ็บป่วยต่างๆ ที่จะมาพร้อมกับเหตุน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นภัยจากกระแสไฟฟ้าช็อต ภัยจากแมลงและสัตว์มีพิษ โรคผิวหนังและโรคทางเดินอาหาร โดยเตรียมที่จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังสุขภาพและมาขอรับการรักษาพยาบาลจากศูนย์บริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ได้
นอกจากนี้ ยังจัดให้มีพยาบาลจิตเวชเข้าประจำการในศูนย์ดังกล่าว เนื่องจากการศึกษา พบว่าภายหลังจากเกิดเหตุน้ำท่วมแล้ว 7 วัน ผู้ประสบภัยจะมีแนวโน้มเกิดความหดหู่ซึมเศร้า จึงได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในเรื่องสภาพจิตใจภายหลังน้ำท่วมด้วย