กาญจนบุรี - ผบก.กาญจนบุรีเผยรู้ตัวศพวัยรุ่นถูกยิงเบ้าตาสวมกุญแจมือถูกทิ้งข้างถนนสาย รพช.-หนองแสลบ บ้านหนองกระทุ่ม อ.เลาขวัญแล้ว เผยเป็นคนเจ้าชู้ และนักเล่นพนันตัวยง มีทรัพย์สินหายไปหลายรายการทั้งรถยนต์ ทอง และเงินสด เบื้องต้น 3 ประเด็น คือ ฆ่าชิงทรัพย์ ฆ่าล้างหนี้พนัน หรือเรื่องชู้สาว สั่งรอง ผบก.กาญจน์คุมคดีด้วยตนเองลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว
จากกรณีเมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.วรวุฒิ กาญจนวนิช พงส.สบ.3 สภ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบศพชายวัยรุ่นนอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณริมถนนสาย รพช-หนองแสลบ บ้านหนองกระทุ่ม หมู่ 7 ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูเบศ ภิญโญวิชิต ผกก.สภ.เลาขวัญ และแพทย์เวรโรงพยาบาลเลาขวัญ ที่เกิดเหตุพบศพเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20-25 ปี ลักษณะผมยาวสีดำ รูปร่างสันทัด ผิวดำแดง สวมกางเกงยีนส์ยี่ห้อขายาวสีดำ ใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาว รองเท้าผ้าใบสีขาว
ข้างศพพบเสื้อคลุมแขนยาวสีดำตกอยู่ จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์เวรโรงพยาบาลเลาขวัญพบว่า ผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณหน้าท้องเหนือสะดือ 1 นัด และบริเวณเบ้าตาด้านขวาพบหมอนรองกระสุนลูกซองฝังอยู่บริเวณเบ้าตาอีก 1 นัด ส่วนมือทั้งสองข้างถูกล็อกด้วยกุญแจมือติดกัน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 48 ชั่วโมง จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบมีร่องรอยของการลากศพลงมาจากถนน จากนั้นคนร้ายจึงโยนศพทิ้งซึ่งอยู่ห่างจากถนนประมาณ 5 เมตร
สอบสวนนายคำใส ปลัดม้า อายุ 40 ปี คนงานโรงฟักไข่ ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขณะที่ตนกำลังปั่นรถจักรยานเพื่อกลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุปรากฏว่าได้กลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงคล้ายกลิ่นศพเน่าตนจึงตัดสินใจจอดรถแล้วลงไปตรวจสอบดูว่าเป็นกลิ่นอะไรกันแน่จนกระทั่งพบว่าเป็นศพมนุษย์ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายน่าจะถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตจากพื้นที่อื่น ก่อนที่จะนำศพมาทิ้งยังจุดดังกล่าวเพื่ออำพรางคดี
ความคืบหน้าในคดีดังกล่าวเมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (26 ก.ย.) พ.ต.อ.ภูเบศ ภิญโญวิชิต ผกก.สภ.เลาขวัญ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.โชต วีรเดชกำแหง ผบก.ภ.กาญจนบุรี เพื่อรายงานความคืบหน้าของคดี โดย พล.ต.ต.โชต ได้เรียก พ.ต.อ.มานิตย์ จำลองรักษ์ รอง ผบก.ภ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.พีระพจน์ ระหว่างบ้าน และ พ.ต.ท.เวช พิสูตร์ รอง ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี เข้ารับฟังความคืบหน้าของคดีด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
โดย พ.ต.อ.ภูเบศ ภิญโญวิชิต ผกก.สภ.เลาขวัญ ได้รายงานความคืบหน้าว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้มี น.ส.พรรณิภา นกขวัญ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 280 หมู่ 2 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.วรวุฒิ กาญจนวนิช พงส.สบ.3 เจ้าของคดีนี้ โดยให้การยืนยันว่าศพเหยื่อดังกล่าวเป็นศพของนายชุมพร นกขวัญ อายุ 31 ปี พี่ชายของตนเอง ซึ่ง น.ส.พรรณิภาให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่มเศษ นายชุมพรผู้ตายได้โทรศัพท์มือถือเข้ามาบอกมารดาว่าจะเดินทางไปหาภรรยาซึ่งกำลังตั้งท้องแก่ที่อำเภออู่ทอง ก่อนหายตัวไป
จากการตรวจสอบทราบว่ามีทรัพย์สินของผู้ตายหายไปจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน ญล 2147 กทม. สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 3 องค์ เลสข้อมือทองคำหนัก 3 บาท แหวนทอง 1 วง เงินสดประมาณ 3 แสนบาท และอาวุธปืนพก 1 กระบอกที่ผู้ตายเพิ่งซื้อมาแต่ไม่ทราบว่าเป็นขนาดอะไร
หลังจากทราบข้อมูลทั้งหมด พล.ต.ต.โชตเปิดเผยว่า หลังทราบว่าผู้ตายเป็นใคร ตนได้สั่งการให้ชุดสืบสวนที่ลงพื้นที่หาข่าวจนทราบว่าผู้ตายเป็นคนมีนิสัยเจ้าชู้ และเป็นนักพนันตัวยง คาดว่า คนร้ายซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 2 คนฆ่ามาจากที่อื่นและนำศพมาทิ้งในเขต อ.เลาขวัญ เพื่ออำพรางคดี ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายเอาไปด้วยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นการอำพรางคดีหรือคนร้ายต้องการชิงทรัพย์จริง เพราะผู้ตายชอบใส่ทองหนักหลายบาทและพกเงินสดติดตัวจำนวนมากๆ อาจทำให้เป็นช่องทางให้คนร้ายก่อเหตุ
พล.ต.ต.โชตกล่าวต่อว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มุ่งปมการสังหารเหยื่อรายนี้ไว้เบื้องต้น 3 ประเด็น คือ ฆ่าชิงทรัพย์ ฆ่าล้างหนี้พนัน หรือเรื่องชู้สาว อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.มานิตย์ จำลองรักษ์ รอง ผบก.ภ.กาญจนบุรี เข้าควบคุมคดีนี้ด้วยตนเอง โดยให้ชุด กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี และ ชุดสืบสวน สภ.เลาขวัญ ประสานงานกันออกสืบสวนหาข่าวกลุ่มคนร้าย และรายงานให้ตนทราบทุกระยะ คืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไป
จากกรณีเมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.วรวุฒิ กาญจนวนิช พงส.สบ.3 สภ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบศพชายวัยรุ่นนอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณริมถนนสาย รพช-หนองแสลบ บ้านหนองกระทุ่ม หมู่ 7 ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูเบศ ภิญโญวิชิต ผกก.สภ.เลาขวัญ และแพทย์เวรโรงพยาบาลเลาขวัญ ที่เกิดเหตุพบศพเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20-25 ปี ลักษณะผมยาวสีดำ รูปร่างสันทัด ผิวดำแดง สวมกางเกงยีนส์ยี่ห้อขายาวสีดำ ใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาว รองเท้าผ้าใบสีขาว
ข้างศพพบเสื้อคลุมแขนยาวสีดำตกอยู่ จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์เวรโรงพยาบาลเลาขวัญพบว่า ผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณหน้าท้องเหนือสะดือ 1 นัด และบริเวณเบ้าตาด้านขวาพบหมอนรองกระสุนลูกซองฝังอยู่บริเวณเบ้าตาอีก 1 นัด ส่วนมือทั้งสองข้างถูกล็อกด้วยกุญแจมือติดกัน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 48 ชั่วโมง จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบมีร่องรอยของการลากศพลงมาจากถนน จากนั้นคนร้ายจึงโยนศพทิ้งซึ่งอยู่ห่างจากถนนประมาณ 5 เมตร
สอบสวนนายคำใส ปลัดม้า อายุ 40 ปี คนงานโรงฟักไข่ ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขณะที่ตนกำลังปั่นรถจักรยานเพื่อกลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุปรากฏว่าได้กลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงคล้ายกลิ่นศพเน่าตนจึงตัดสินใจจอดรถแล้วลงไปตรวจสอบดูว่าเป็นกลิ่นอะไรกันแน่จนกระทั่งพบว่าเป็นศพมนุษย์ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายน่าจะถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตจากพื้นที่อื่น ก่อนที่จะนำศพมาทิ้งยังจุดดังกล่าวเพื่ออำพรางคดี
ความคืบหน้าในคดีดังกล่าวเมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (26 ก.ย.) พ.ต.อ.ภูเบศ ภิญโญวิชิต ผกก.สภ.เลาขวัญ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.โชต วีรเดชกำแหง ผบก.ภ.กาญจนบุรี เพื่อรายงานความคืบหน้าของคดี โดย พล.ต.ต.โชต ได้เรียก พ.ต.อ.มานิตย์ จำลองรักษ์ รอง ผบก.ภ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.พีระพจน์ ระหว่างบ้าน และ พ.ต.ท.เวช พิสูตร์ รอง ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี เข้ารับฟังความคืบหน้าของคดีด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
โดย พ.ต.อ.ภูเบศ ภิญโญวิชิต ผกก.สภ.เลาขวัญ ได้รายงานความคืบหน้าว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้มี น.ส.พรรณิภา นกขวัญ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 280 หมู่ 2 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.วรวุฒิ กาญจนวนิช พงส.สบ.3 เจ้าของคดีนี้ โดยให้การยืนยันว่าศพเหยื่อดังกล่าวเป็นศพของนายชุมพร นกขวัญ อายุ 31 ปี พี่ชายของตนเอง ซึ่ง น.ส.พรรณิภาให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่มเศษ นายชุมพรผู้ตายได้โทรศัพท์มือถือเข้ามาบอกมารดาว่าจะเดินทางไปหาภรรยาซึ่งกำลังตั้งท้องแก่ที่อำเภออู่ทอง ก่อนหายตัวไป
จากการตรวจสอบทราบว่ามีทรัพย์สินของผู้ตายหายไปจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน ญล 2147 กทม. สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 3 องค์ เลสข้อมือทองคำหนัก 3 บาท แหวนทอง 1 วง เงินสดประมาณ 3 แสนบาท และอาวุธปืนพก 1 กระบอกที่ผู้ตายเพิ่งซื้อมาแต่ไม่ทราบว่าเป็นขนาดอะไร
หลังจากทราบข้อมูลทั้งหมด พล.ต.ต.โชตเปิดเผยว่า หลังทราบว่าผู้ตายเป็นใคร ตนได้สั่งการให้ชุดสืบสวนที่ลงพื้นที่หาข่าวจนทราบว่าผู้ตายเป็นคนมีนิสัยเจ้าชู้ และเป็นนักพนันตัวยง คาดว่า คนร้ายซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 2 คนฆ่ามาจากที่อื่นและนำศพมาทิ้งในเขต อ.เลาขวัญ เพื่ออำพรางคดี ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายเอาไปด้วยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นการอำพรางคดีหรือคนร้ายต้องการชิงทรัพย์จริง เพราะผู้ตายชอบใส่ทองหนักหลายบาทและพกเงินสดติดตัวจำนวนมากๆ อาจทำให้เป็นช่องทางให้คนร้ายก่อเหตุ
พล.ต.ต.โชตกล่าวต่อว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มุ่งปมการสังหารเหยื่อรายนี้ไว้เบื้องต้น 3 ประเด็น คือ ฆ่าชิงทรัพย์ ฆ่าล้างหนี้พนัน หรือเรื่องชู้สาว อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.มานิตย์ จำลองรักษ์ รอง ผบก.ภ.กาญจนบุรี เข้าควบคุมคดีนี้ด้วยตนเอง โดยให้ชุด กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี และ ชุดสืบสวน สภ.เลาขวัญ ประสานงานกันออกสืบสวนหาข่าวกลุ่มคนร้าย และรายงานให้ตนทราบทุกระยะ คืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไป
