ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์มอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

กาฬสินธุ์-ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นำถุงยังชีพมอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหนองกุงศรี ซึ่งเป็นพื้นที่เหนือเขื่อน หลังระดับน้ำในเขื่อนลำปาวเพิ่มสูงขึ้นถึง 89% พร้อมระดมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกตรวจสุขภาพให้กับประชาชนในถิ่นทุรกันดาร

วันนี้ (18ก.ย.54) ที่ศาลาวัดบ้านคำศรี ม.13 ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางวณี จิวะรังสรรค์ นายกเหล่ากาชาดจ.กาฬสินธุ์ คณะกรรมการเหล่ากาชาด เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.กาฬสินธุ์นำถุงยังชีพจำนวน 70 ชุดไปมอบให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมใน ต.หนองบัว และ ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี ซึ่งเป็นพื้นที่เหนือเขื่อนลำปาวที่ถูกน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านและพื้นที่การเกษตร หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลอำเภอหนองกุงศรี ออกให้บริการตรวจสุขภาพประชาชนในถิ่นทุรกันดาร

นอกจากนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจ.กาฬสินธุ์ได้นำเครื่องเวชภัณฑ์ ยาสามัญประจำบ้าน และรองเท้าบูทออกแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อป้องกันโรคฉี่หนูและเฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำท่วมอีกด้วย

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งสิ้น 18 อำเภอ 134 ตำบล 1,308 หมู่บ้าน ถนนชำรุด 865 สาย สะพาน 5 แห่ง ฝายพนังกั้นน้ำ 16 แห่ง บ่อปลา บ่อกุ้ง บ่อตะพาบ 8 บ่อ บ้านเรือนถูกน้ำท่วมขัง 50 หลัง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 113,914 ครัวเรือน รวม 515,173 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 45,390 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 126,030,710 บาท

สำหรับเขื่อนลำปาวขณะนี้มีปริมาณน้ำในอ่าง 1,767.20 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 89.25 ของความจุอ่างทั้งหมด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้สั่งการให้ทุกอำเภอ เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยให้จัดเจ้าหน้าที่อยู่เวรเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์