ลำปาง - ครูนำเด็กวัย 13 ปี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับยายวัย 51 เจ้าของโรงเจกลางเมืองลำปาง หลังถูกใช้ไม้บรรทัดเหล็กตีหัวเป็นแผลยาวเกือบ 5 นิ้ว และตามร่างกาย
เมื่อเวลา 11.00น.วันนี้ (16 ก.ย.54) ที่โรงเรียนบ้านปงสนุก อ.เมือง จ.ลำปาง ด.ต.ชาญวิสุทธิ์ ต้นมณี ผู้อุปถัมภ์ เด็กหญิงจิดาภา บานงาม หรือน้องปิ่น อายุ 13 ปี พร้อมด้วยนางสุปราณี ต่างใจ ครูประจำชั้น ป.1 ได้ชี้ให้ผู้สื่อข่าวดูบาดแผลบริเวณศีรษะและตามร่างกาย ของน้องปิ่น หลังถูกนางสาวทองดี เหล่าพิทักษ์ธรรม อายุ 51ปี เจ้าของโรงเจเชียงเต็กตึ้ง ใช้ไม้บรรทัดเหล็กฟาดที่ศีรษะ-ร่างกายจนเป็นแผลเลือดไหล และระบมตามร่างกาย ก่อนที่จะนำตัวเด็กเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ที่ สภ.เมืองลำปาง และให้ชุดสืบสวนจังหวัดลำปางเข้าตรวจสอบที่โรงเจดังกล่าว
จากการสอบถามน้องปิ่น ได้เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา นางสาวทองดี ซึ่งเป็นคนเลี้ยงดูและเป็นเจ้าของโรงเจ ได้นั่งเล่นเกมส์และให้น้องปิ่น นั่งเป็นเพื่อนจนกระทั่งเวลาประมาณ 4 ทุ่ม น้องปิ่น ง่วงนอนจึงเผลอหลับ นางสาวทองดี จึงไม้พอใจและนำไม้บรรทัดเหล็กฟาดหัวจนแตกเลือดไหลและฟาดตามร่างกายด้วย แต่ตนเองไม่กล้าที่จะบอกใคร
จนกระทั่งมาที่โรงเรียน และ ด.ต.ชาญวิสุทธิ์ ซึ่งเป็นอุปถัมภ์ให้เงินส่งเสียเลี้ยงดูน้องปิ่น มาตลอด เห็นจึงได้สอบถาม จนได้ความดังกล่าว จึงได้นำตัวเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวน้องปิ่นไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลลำปาง
ขณะที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองลำปาง ได้เข้าตรวจสอบที่โรงเจเชียงเต็กตึ้ง ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่81ตรอกโรงไฟฟ้าเก่า กลางเมืองลำปาง พบว่า เป็นอาคารเก่ามีคนอาศัยทั้งเด็กเล็กและผู้ใหญ่ประมาณ7 คน ซึ่งบอกว่าเด็กส่วนใหญ่ที่อยู่เป็นเด็กที่มีคนทิ้ง รวมถึงน้องปิ่น ด้วย พ่อแม่ทิ้งและมีเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิลำปางสงเคราะห์ชื่อนางสา ได้พาตัวน้องปิ่นมาฝากเลี้ยงตั้งอายุ 4 ขวบ โดยไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใคร จึงไม่มีแม้แต่หลักฐานประจำตัว
เมื่อสอบถามนางสาวทองดี เกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายน้องปิ่น นางสาวทองดี ยอมรับว่า ทำร้ายจริง แต่ให้การวกวนสับสน โดยในตอนแรกบอกว่าใช้ไม้ตี แต่เมื่อสอบถามถึงไม้บรรทัดเหล็กตอนแรกบอกว่าไม่มี แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ถามมากขึ้นก็ยอมรับว่ามีและได้นำหลักฐานมาให้เจ้าหน้าที่ แต่ปฏิเสธว่าไม่รู้ว่าบาดเจ็บมาก เมื่อตีแล้วก็บอกให้เอายาหม่องทาเท่านั้น ส่วนสาเหตุนางสาวทองดี บอกว่า เนื่องจากน้องปิ่นไม่ยอมทำการบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เชิญตัวไปให้ปากคำที่ สภ.เมืองลำปาง อีกครั้ง
ส่วนน้องปิ่น เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวไปฝากไว้ที่ บ้านพักเด็กและสตรี หรือที่โรงเรียนจิตอารี เป็นการชั่วคราวก่อน
ด้าน ด.ต.ชาญวิสุทธิ์ ต้นมณี ผู้อุปถัมภ์ เล่าว่า น้องปิ่นไม่มีหลักฐานใดๆเลย เมื่อทราบเรื่องตั้งแต่แรกก็สงสาร จึงได้ช่วยอุปถัมภ์ค่าใช้จ่ายต่างๆ และนำมาฝากให้เข้าโรงเรียน ทั้งๆที่ไม่มีหลักฐานใดๆเพราะสงสารเด็กที่จะไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เมื่อมาเกิดเรื่องก็รู้สึกสะเทือนใจและสงสารเด็กมาก
