กาฬสินธุ์-ชาวกาฬสินธุ์บุกบ้านรมช.ศึกษาธิการยื่นหนังสือร้องให้ตรวจสอบงบประมาณค่าอาหารกลางวันโรงเรียนปากน้ำราษฎร์บำรุง ระบุถูกหักค่าใช้จ่ายหายไปครึ่งหนึ่ง ทำเด็กกินอาหารกลางวันอดๆอยากๆ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (15 ก.ย.) ที่บ้านพักนางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ชาวบ้านปากน้ำ ม.12 ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์กว่า 30 คน นำโดยนายบุญชิต โสดามรรค ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.12 เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนของโรงเรียนปากน้ำราษฎร์บำรุง
เนื่องจากที่ผ่านมาเด็กนักเรียนรับประทานอาหารกลางวันไม่อิ่มท้อง เพราะครูและคณะผู้บริหารได้หักเงินค่าอาหารกลางวันออกไป จากเดิมต้องจ่ายวันละ 1,525 บาท แต่จ่ายค่าอาหารเพียง 800 บาทเท่านั้น จึงทำให้ปริมาณอาหารกลางวันมีน้อย โดยมีนายวัชรินทร์ มัธยมนัทน์เลขานุการสำนักงานนางบุญรื่น ศรีธเรส ส.ส.กาฬสินธุ์เขต 1 เป็นผู้รับเรื่อง
นายบุญชิต โสดามรรค ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.12 กล่าวว่า ได้รับแจ้งความเดือดร้อนจากชาวบ้านว่าลูกๆหลานๆกินอาหารกลางวันของโรงเรียนไม่อิ่ม เพราะอาหารกลางวันที่โรงเรียนจัดให้เด็กมีแต่น้ำกับผักเป็นส่วนใหญ่ นักเรียนจะได้เนื้อ1-2 ชิ้นในรอบแรก หากรับประทานในรอบที่สอง จะได้รับแต่ข้าวกับน้ำแกงและเศษผักเท่านั้น ส่วนขนมหวานได้กินแต่วุ้นเป็นส่วนใหญ่
นายบุญชิต กล่าวต่อว่า หลังรับเรื่องจึงไปตรวจสอบงบประมาณอาหารกลางวันจากครูภายในโรงเรียนจึงได้ทราบว่า ปกติงบประมาณอาหารกลางวันของโรงเรียนจะมีให้วันละ 1,525 บาท โดยทางโรงเรียนนำไปจ้างคนภายนอกทำอาหารกลางวันเพียงวันละ 800 บาท ซึ่งหักเป็นค่าจ้างทำอาหาร 100 บาท เหลือค่าใช้จ่ายทำอาหารจริงเพียง 700 บาท แต่มีการเซ็นต์เอกสารค่าใช้จ่ายเต็มคือ 1,525 บาท ทำให้เงินส่วนที่เหลือที่หักไว้ 725 บาท ทุกวันไม่รู้ว่าหายไปไหน
ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้วหลายปี ทำให้เด็กนักเรียนต้องกินอาหารกลางวันแบบอดๆอยากๆ บางรายผู้ปกครองต้องซื้ออาหารสำเร็จรูปให้บุตรหลายของตัวเอง เนื่องจากกินอาหารไม่อิ่มท้อง ดังนั้นชาวบ้านจึงต้องการให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรงศึกษาธิการดำเนินการสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ และติดตามเงินที่หายไปมาให้แก่นักเรียน เพื่อที่จะได้กินอาหารกลางวันเต็มอิ่มสักที
ด้านนายวัชรินทร์ มัธยมนันท์ เลขานุการสำนักงานนางบุญรื่น ศรีธเรส ส.ส.กาฬสินธุ์เขต 1 กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องร้องเรียนกับชาวบ้านไว้แล้ว พร้อมกับรายงานไปยังนางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาและดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยนางบุญรื่นได้กำชับและยืนยันว่าจะดำเนินการสอบสวนและให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างแน่นอน
ขณะที่นายมีชัย ไขแสง ผู้อำนวยการโรงเรียนปากน้ำราษฎร์บำรุง กล่าวว่า ปัจจุบันโรงเรียนมีนักเรียนทั้งหมด 134 คน โดยทางโรงเรียนได้รับงบประมาณค่าอาหารกลางวันจากรัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเฉลี่ยคนละ 13 บาท ซึ่งเงินที่ได้มาทั้งหมดในแต่ละวันจำนวน 1,525 บาท จะนำไปใช้จ่ายค่าอาหารกลางวันทั้งหมดไม่ได้หักไว้หรือนำไปใช้ในส่วนอื่น
โดยมีเอกสารการเบิกจ่ายชัดเจนและถูกต้อง แต่การร้องเรียนที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวของกลุ่มครูในโรงเรียน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (15 ก.ย.) ที่บ้านพักนางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ชาวบ้านปากน้ำ ม.12 ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์กว่า 30 คน นำโดยนายบุญชิต โสดามรรค ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.12 เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนของโรงเรียนปากน้ำราษฎร์บำรุง
เนื่องจากที่ผ่านมาเด็กนักเรียนรับประทานอาหารกลางวันไม่อิ่มท้อง เพราะครูและคณะผู้บริหารได้หักเงินค่าอาหารกลางวันออกไป จากเดิมต้องจ่ายวันละ 1,525 บาท แต่จ่ายค่าอาหารเพียง 800 บาทเท่านั้น จึงทำให้ปริมาณอาหารกลางวันมีน้อย โดยมีนายวัชรินทร์ มัธยมนัทน์เลขานุการสำนักงานนางบุญรื่น ศรีธเรส ส.ส.กาฬสินธุ์เขต 1 เป็นผู้รับเรื่อง
นายบุญชิต โสดามรรค ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.12 กล่าวว่า ได้รับแจ้งความเดือดร้อนจากชาวบ้านว่าลูกๆหลานๆกินอาหารกลางวันของโรงเรียนไม่อิ่ม เพราะอาหารกลางวันที่โรงเรียนจัดให้เด็กมีแต่น้ำกับผักเป็นส่วนใหญ่ นักเรียนจะได้เนื้อ1-2 ชิ้นในรอบแรก หากรับประทานในรอบที่สอง จะได้รับแต่ข้าวกับน้ำแกงและเศษผักเท่านั้น ส่วนขนมหวานได้กินแต่วุ้นเป็นส่วนใหญ่
นายบุญชิต กล่าวต่อว่า หลังรับเรื่องจึงไปตรวจสอบงบประมาณอาหารกลางวันจากครูภายในโรงเรียนจึงได้ทราบว่า ปกติงบประมาณอาหารกลางวันของโรงเรียนจะมีให้วันละ 1,525 บาท โดยทางโรงเรียนนำไปจ้างคนภายนอกทำอาหารกลางวันเพียงวันละ 800 บาท ซึ่งหักเป็นค่าจ้างทำอาหาร 100 บาท เหลือค่าใช้จ่ายทำอาหารจริงเพียง 700 บาท แต่มีการเซ็นต์เอกสารค่าใช้จ่ายเต็มคือ 1,525 บาท ทำให้เงินส่วนที่เหลือที่หักไว้ 725 บาท ทุกวันไม่รู้ว่าหายไปไหน
ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้วหลายปี ทำให้เด็กนักเรียนต้องกินอาหารกลางวันแบบอดๆอยากๆ บางรายผู้ปกครองต้องซื้ออาหารสำเร็จรูปให้บุตรหลายของตัวเอง เนื่องจากกินอาหารไม่อิ่มท้อง ดังนั้นชาวบ้านจึงต้องการให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรงศึกษาธิการดำเนินการสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ และติดตามเงินที่หายไปมาให้แก่นักเรียน เพื่อที่จะได้กินอาหารกลางวันเต็มอิ่มสักที
ด้านนายวัชรินทร์ มัธยมนันท์ เลขานุการสำนักงานนางบุญรื่น ศรีธเรส ส.ส.กาฬสินธุ์เขต 1 กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องร้องเรียนกับชาวบ้านไว้แล้ว พร้อมกับรายงานไปยังนางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาและดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยนางบุญรื่นได้กำชับและยืนยันว่าจะดำเนินการสอบสวนและให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างแน่นอน
ขณะที่นายมีชัย ไขแสง ผู้อำนวยการโรงเรียนปากน้ำราษฎร์บำรุง กล่าวว่า ปัจจุบันโรงเรียนมีนักเรียนทั้งหมด 134 คน โดยทางโรงเรียนได้รับงบประมาณค่าอาหารกลางวันจากรัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเฉลี่ยคนละ 13 บาท ซึ่งเงินที่ได้มาทั้งหมดในแต่ละวันจำนวน 1,525 บาท จะนำไปใช้จ่ายค่าอาหารกลางวันทั้งหมดไม่ได้หักไว้หรือนำไปใช้ในส่วนอื่น
โดยมีเอกสารการเบิกจ่ายชัดเจนและถูกต้อง แต่การร้องเรียนที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวของกลุ่มครูในโรงเรียน