เมืองโคราชเร่งระบายน้ำรับมือมรสุมลูกใหม่-“เขื่อนลำพระเพลิง” วิกฤตน้ำเต็ม

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯโคราชนำ จนท.พร้อมรถแบ็กโฮเร่งขุดขยายทางระบายน้ำ “ลำบริบูรณ์” เพื่อพร่องน้ำออกจากตัวเมืองโคราช รับมือมรสุมลูกใหม่จ่อถล่มอีกระลอก 18-19 ก.ย.นี้ ขณะ “เขื่อนลำพระเพลิง” อ.ปักธงชัย เข้าขั้นวิกฤต น้ำเต็มเขื่อนแล้ว ชี้ไม่กระทบโดยตรงต่อชุมชนเมืองปักฯ แต่พื้นที่การเกษตรใต้เขื่อนท่วมแน่ พร้อมยันไม่ให้น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจโคราชเหมือนปีที่ผ่านมาเด็ดขาด

วันนี้ (14 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ฝายตาเมฆ และ ฝายกุดขาด ต.โตนด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำชลประทานจังหวัดนครราชสีมา, นายอำเภอเมือง, ตัวแทนเทศบาลนครฯ, อบต.โตนด อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อบต.บ้านโพธิ์ ต.จอหอ และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ นำรถแบ็คโฮเข้าไปขุดขยายร่องน้ำบริเวณฝายทั้งสองแห่ง เพื่อเร่งระบายน้ำหลังจากน้ำในลำบริบูรณ์ที่ไหลมาจากสาขาลำน้ำลำตะคอง มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จนล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรหลายตำบลในเขต อ.เมืองนครราชสีมา และยังคงเพิ่มปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเพื่อเป็นการรองรับน้ำใหม่ที่จะเกิดจากมรสุมพาดผ่าน จ.นครราชสีมา อีกระลอก ในช่วงวันที่ 18 -19 ก.ย.นี้

นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลังเกิดฝนตกลงมามากในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา วัดปริมาณน้ำฝนได้ เกือบ 200 ม.ม.ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มของ อ.ปากช่อง, อ.สีคิ้ว, สูงเนิน, ขามทะเลสอ, อ.เมืองนครราชสีมา, อ.วังน้ำเขียว, อ.ปักธงชัย, อ.โชคชัย และเกิดน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ทางจังหวัดฯได้ประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว

หลักการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดนครราชสีมา คือ ป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจเขตเทศบาลนครนครราชสีมาหรือเขตเศรษฐกิจอื่นๆบริเวณใกล้เคียงทั้ง ต.จอหอ, ต.หมื่นไวย, อ.เมืองนครราชสีมา และ เทศบาลตำบลเมืองปัก อ.ปักธงชัย เหมือนปีที่ผ่านมา ขอยืนยันว่าขณะนี้ทางเขื่อนลำตะคองยังไม่เปิดประตูการระบายลงมาด้านล่าง เนื่องจากมีปริมาณน้ำในลำน้ำมากแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเขื่อนได้พร่องน้ำรอไว้ก่อนประมาณ 150 ล้าน ลบ.ม. และฝนตกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีน้ำหลากเข้าเขื่อนประมาณ 90 ล้าน ลบ.ม.ยังเหลือเก็บได้อีกประมาณ 60 ล้าน ลบ.ม.

“น้ำที่เห็นอยู่ขณะนี้เป็นน้ำที่เกิดจากฝนตกด้านท้ายเขื่อนทั้งหมด และทำให้เกิดภาวะน้ำหลากในหลายตำบลของ อ.เมืองนครราชสีมา รวมทั้ง ต.หนองบัวศาลา ที่กำลังถูกน้ำท่วมอยู่ขณะนี้ สิ่งที่ต้องเร่งทำตอนนี้คือต้องระบายน้ำที่ค้างอยู่ในพื้นที่ออกไปให้เร็วที่สุด เพราะมีพยากรณ์อากาศจากสถานีอุตุนิยมวิทยานครราชสีมาคาดว่าจะมีร่องมรสุมเกิดขึ้นใน จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 18-19 ก.ย.54 นี้” นายระพี กล่าว

นายระพี กล่าวอีกว่า การเตือนภัยของจังหวัดฯ ในปีนี้ทำเป็นระบบ โดยมีการแจ้งเตือน 4 ระดับ เขียว (1) - เหลือง (2) - ส้ม (3) - แดง (4) หากถึงขั้นที่ 4 จะเกิดน้ำท่วมรุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ในเขตเทศบาลฯอยู่ในระดับ 1 สีเขียว คือ ปกติ และระดับที่ 2 สีเหลืองเฝ้าระวังเท่านั้น ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ในเขตเทศบาลนครฯ และขณะนี้ยังไม่ได้เตือนภัยใดๆ ทั้งสิ้น และขอให้มั่นใจว่าเราจะสามารถผ่านอุทกภัยปีนี้ไปได้ด้วยดี

ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนเต็มระดับเก็บกักแล้ว ฉะนั้น ฝนตกลงมาเท่าไหร่ก็ไหลออกจากเขื่อนเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร ไร่ นา ในท้องที่ อ.ปักธงชัย และ อ.โชคชัย แต่จะไม่ส่งกระทบโดยตรงต่อพื้นที่ชุมชนเมืองของ อ.ปักธงชัยแต่อย่างใด ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ส่วนนาข้าวที่สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้วก็ให้เร่งเก็บเกี่ยวไปก่อน นายระพี กล่าว