ได้กลิ่นเน่าโชยจากซากอาคารถล่มที่สระบุรี แต่ถูกคนเฝ้าขวาง จนท.ไม่ให้เข้าตรวจสอบ

สระบุรี - เจ้าหน้าที่ได้กลิ่นซากของเน่าเหม็นคล้ายซากสัตว์-คน ในซากอาคารสระบุรี ที่ถล่มลงมาเมื่อวันที่ 12 ก.ย.จนมีผู้เสียชีวิต 4 ศพ บาดเจ็บอีก 1 ราย เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ แต่กลับถูกทางผู้เฝ้าซากอาคารไม่ยอมให้เข้าไปตรวจสอบ จนเกิดการถกเถียงกันอยู่นาน สุดท้าย จนท.ต้องถอยออกมา เผยพบพิรุธบางอย่างซุกอยู่ภายใน

จากกรณีเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลา 06.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.สระบุรี รับแจ้งเกิดเหตุอาคารถล่มบริเวณเชิงเขาตะกร้า ซึ่งอยู่ด้านหลังโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สาขาสระบุรี จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมรุดไปที่เกิดเหตุ พบอาคารเลขที่ 88 หมู่ 3 ตำบลปากข้าวสาร อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ซึ่งมีลักษณะเป็นตึกแถว 2 ชั้น ชั้นละ 5 ห้อง พื้นยกสูงตามความลาดเชิงเขา ใช้เป็นโรงจอดรถ อยู่ในสภาพทรุดตัวถล่มลงมาโดยชั้น 2 ลงมากองอยู่บนพื้นดิน ส่วนชั้น 1 ยุบตัวกองกับพื้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพผู้เสียชีวิตจากเหตุอาคารถล่มนี้แล้ว 4 ศพ เป็นผู้หญิงวัยกลางคน และเด็กหญิงอายุ 4 ขวบคนหนึ่ง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 รายนั้น

ล่าสุด วันนี้ (14 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.45 น.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ อบต.ปากข้าวสาร อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ว่า ขณะเข้าไปติดป้ายประกาศห้ามรื้อถอนอาคารดังกล่าว ปรากฏได้มีกลิ่นเน่าเหม็นคล้ายซากสัตว์ หรือคน ไม่แน่ชัดโชยออกมาจากภายในอาคารที่ถล่ม ทางเจ้าหน้าที่ อบต.ปากข้าวสาร จึงได้ประสานไปทางอำเภอเมืองสระบุรี เข้าตรวจสอบ

ต่อมาเวลา 12.20 น.เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ อบต.ปากข้าวสาร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลปากข้าวสาร และอาสาสมัครกู้ภัยสว่างรัตนตรัยกว่า 20 นาย นำโดยว่าที่ร้อยตรี สมพร ประดิษฐ์ ปลัดอำเภอเมืองสระบุรี รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ปรากฏว่า มี นายธนิต ขำสุข เฝ้าบ้านหลังเกิดเหตุไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปยังที่เกิดเหตุอ้างว่า มีสร้อยทองคำหนัก 2 บาท อยู่ภายในห้องที่เกิดเหตุ ต้องรอเจ้าของห้องกลับมาดูด้วย จึงไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอาคารดังกล่าว พร้อมต่อว่า เจ้าหน้าที่ต่างๆ นานา พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปนำตัวเจ้าของห้องที่รักษาตัวอยู่ รพ.สระบุรี มา และอ้างว่า กลิ่นที่โชยออกมาเป็นกลิ่นของเนื้อที่อยู่ในตู้เย็นที่อยู่ใต้ซากตึก และทางเจ้าหน้าที่อาสาฯ ได้แจ้งว่า ยังมีรถยนต์ 4 ประตู ไม่ทราบยี่ห้อที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารที่เจ้าของอาคารไม่ยอมให้เข้าไปตรวจสอบอีก 1 คัน

ในขณะเดียวกัน ได้มีรถขนขยะของเทศบาลเมืองสระบุรี เข้ามาขนซากเศษวัสดุอาคาร โดยทาง นายธนิต อ้างว่า ได้โทรศัพท์สอบถามทาง อบต.ปากข้าวสาร แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ อบต.ปากข้าวสาร ที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ยินยอมให้ขนย้ายออกไป ทำให้ นายธนิต ไม่พอใจเข้าสอบถามปลัดอำเภอเมืองสระบุรี ว่า เป็นปลัดฯระดับไหน ใช้เวลาเจรจากว่า 2 ชั่วโมง จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ทั้งหมดต้องถอยออกจากจุดเกิดเหตุ เพื่อหาแนวทางที่จะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง เพราะไม่ทราบว่าเหตุใดทางเจ้าของอาคาร จึงไม่ยอมให้เข้าตรวจสอบ หรือมีอะไรเป็นที่น่าสงสัยในพฤติกรรมเป็นอย่างมาก