ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตร.โคราชจับเพิ่มอีก 1 รายแก๊งสังหารโหด “ผอ.โรงเรียน อ.จักราช” และภรรยาดับคารถขณะกลับบ้าน รับเป็นกิ๊กมือปืนทำหน้าที่ขับรถ แต่ยังปากแข็งไม่ทราบพามือปืนคู่ขาไปฆ่าคน อ้างถูกหลอกไปเป็นเพื่อนทวงหนี้ เผยหลังเกิดเหตุหนีไปซุกหัวในบ่อนเขมร ก่อนกลับใจเข้ามอบตัวต่อตำรวจ หลังครูผู้จ้างวานฆ่าและมือปืนทหารอากาศ ถูกจับกุมไปแล้ว 2 คน
วันนี้ (14 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองวีระประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รองผบช.ภ.3) รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา และ พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงผลการจับกุม น.ส.พรรณชนกพร ผมน้อย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/523 ซ.คู้บอน 20 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาคดีสังหารโหดนายสุฌาน นาศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบัวกลาง ต.จักราช อ.จักราช จ.นครราชสีมา และ นางสุนันท์ นาศรี อายุ 49 ปี อาจารย์ประจำโรงเรียนบ้านหนองบัวกลาง ภรรยา รวม 2 ศพ ขณะเดินทางกลับบ้าน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 มี.ค. 2553 ที่ผ่านมา โดย น.ส.พรรณชนกพรทำหน้าที่ขับรถให้มือปืน ซึ่งขณะแถลงข่าวได้มี พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนครู และนักเรียนลูกศิษย์ที่รักเคารพผู้ตายทั้ง 2 คนเดินทางมาร่วมฟังการแถลงข่าวด้วย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2553 เกิดเหตุคนร้ายยิง นายสุฌาน และนางสุนันท์ สองสามีภรรยาที่รับราชการครูโรงเรียนบ้านหนองบัวกลาง ต.จักราช อ.จักราช จ.นครราชสีมา เสียชีวิตในรถยนต์กระบะยี่ห้อ นิสสัน สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บม 1522 นครราชสีมา ระหว่างเดินทางกลับบ้านพัก เกิดเหตุบนถนนช่วงระหว่างหมู่บ้านโนนพฤกษ์-บ้านหนองบัวกลาง หมู่ 10 ต.จักราช อ.จักราช จ.นครราชสีมา ส่วนลูกชายวัย 8 ปีที่นั่งโดยสารมาด้วยรอดชีวิตหวุดหวิด
ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้จำนวน 2 คน คือ นางเพ็ชร์รีย์ สงวนดี ครูโรงเรียนบ้านหนองบัวกลาง ผู้จ้างวางฆ่า และ นายพลภพ ขนทอง อาชีพรับราชการทหารอากาศ มือปืน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตั้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ล่าสุดจนถึงขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ประกันตัวออกไปและต่อสู้คดีในชั้นศาล
จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.พรรณชนกพร ผมน้อย ทำหน้าที่ขับรถยนต์ให้นายพลภพ มือปืนลงมือในวันเกิดเหตุ ได้หลบหนีไป พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา ออกหมายจับที่ 174/2553 ลงวันที่ 1 มิ.ย.2553 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากนั้นได้ทำการสืบสวนติดตามเรื่อยมา
กระทั่งช่วงเย็นวานนี้ (13 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัว น.ส.พรรณชนกพร ได้ที่บริเวณซอยราชปรารภ 8 (ซอยวัฒนวงศ์) ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยให้การว่า ในวันเกิดเหตุได้ร่วมเดินทางไปกับนายพลภพ มือปืน ซึ่งเป็นแฟน หรือกิ๊กกันจริง แต่ไม่ทราบมาก่อนว่านายพลภพจะไปยิงผู้ตายทั้ง 2 คน หากทราบจะไม่ไปด้วย แต่ในวันนั้นนายพลภพหลอกว่าจะพามาทวงหนี้กับลูกหนี้รายใหญ่ ซึ่งติดหนี้ไว้จำนวน 1,000,000 บาท หากทวงหนี้ได้สำเร็จจะได้ส่วนแบ่งจากการทวงหนี้ด้วย
โดยเมื่อขับรถมาถึงเขต อ.จักราช นายพลภพได้ให้ตนขับรถแทน ขณะขับขึ้นแซงรถของผู้ตายทั้ง 2 คน นายพลภพก็ลงมือกระหน่ำยิงไม่ยั้ง ตนตกใจจึงเหยียบคันเร่งหนีสุดแรง และได้แยกย้ายกันหลบหนี โดยตนไปอยู่ที่ จ.ระยอง ก่อนหนีไปกบดานอยู่ในบ่อนกาสิโนที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยไปทำงานเป็นเด็กเดินชิปในบ่อน แต่รู้สึกไม่สบายใจและถูกกดดันมาอย่างต่อเนื่องจึงตัดสินใจเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว และจะให้การตามความเป็นจริงทุกอย่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว น.ส.พรรณชนกพร ได้เข้าไปกราบขอขมาพ่อและแม่ของนายสุฌาน ผู้ตาย พร้อมร้องไห้ฟูมฟายบอกว่าไม่ได้ตั้งใจและไม่รู้ว่าจะต้องมาฆ่าคนตาย หากรู้จะไม่มาด้วย และยืนยันว่าจะให้การต่อศาลตามความจริงทุกประการ