ระยอง - เกษตรกรเมืองแปดริ้วกว่า 100 คน มาร่วมฟังการพิจารณาไต่สวนพยาน กรณีสร้างโรงไฟฟ้านครเนื่องเขต หลังแกนนำชาวบ้านฟ้องศาลปกครองระยอง
วันนี้ (13 ก.ย.) ที่ศาลปกครองระยอง ห้องพิจารณาที่ 1 นายประทีป วรนิติ รองอธิบดีศาลปกครองระยอง นั่งบัลลังก์ พิจารณาไต่สวนพยาน กรณี นายประจักร์ กลี่จินดา อายุ 45 ปี เลขที่ 27 หมู่ 12 ตำบลท่าไข่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา แกนนำชาวบ้านตำบลท่าไข่ ตำบลนครเนื่องเขต ตำบลวังตะเคียน ตำบลหนามแดง ตำบลบางเตย ฯลฯ ยื่นฟ้ององค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) นครเนื่องเขต อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขบวนการก่อสร้างโรงไฟฟ้านครเนื่องเขตไม่ถูกต้อง โดยชาวบ้านไม่มีส่วนร่วม เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีชาวบ้าน กว่า 100 คน เดินทางโดยรถยนต์บัสและรถยนต์กระบะเดินทางมาให้กำลังใจที่ศาลปกครองระยอง
นายประจักร์ กล่าวว่า โรงไฟฟ้านครเนื่องเขต เป็นของบริษัท ฉะเชิงเทรา โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท สหโคเจน การยื่นฟ้องต่อศาลปกครองระยองเนื่องจากพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าเป็นพื้นที่เกษตรกรรมและมีคลองลักษณะเชื่อมโยง จำนวน 97 คลอง จุน้ำได้ประมาณ 10 ล้านลูกบาศ์กเมตร เกษตรกรใช้วิธีเก็บกักน้ำไว้ใช้ในการทำนาข้าว รวมทั้งสิ้น 90,000 กว่าไร่ 11 ตำบล ซึ่งในแต่ละปีเกษตรกรก็ประสบปัญหาภัยแล้งเป็นประจำทุกปี เมื่อมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ โรงไฟฟ้าก็จะสูบน้ำในคลองไปใช้ในขบวนการผลิต จะยิ่งทำให้เกษตรกรทำนาที่ใช้ระบบการเก็บกักน้ำใช้ในการทำนา ซึ่งไม่มีอ่างเก็บน้ำสำรองไว้ จะได้รับผลกระทบการขาดแคลนน้ำสูงมากขึ้น ที่คือปัญหาที่พวกเราฟ้องศาลปกครองระยอง
นายสมชัย ลายประดิษฐ์ อายุ 52 ปี หมู่ 17 ตำบลนครเนื่องเขต กล่าวว่าขณะนี้ทางโรงไฟฟ้ากำลังดำเนินการตอกเสาเข็มก่อสร้างโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ชาวบ้านรวมตัวคัดค้าน ร้องไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน และที่น่าจับตาหน่วยงานของรัฐ ผู้นำชุมชนทั้งจังหวัดฉะเชิงเทราไม่มีใครออกมาช่วยชาวบ้านแต่อย่างใดพวกเรา จึงต้องมาพึ่งศาลปกครองระยอง ที่มากันวันนี้ทุกคนช่วยกันเสียสละเงินเพื่อเป็นค่ารถโดยสารเดินทางมากันครั้งนี้ และที่เสียใจมากเนื่องจากผู้นำชุมชนและหน่วยงานภาครัฐเอาใจนายทุน
