ศูนย์ข่าวศรีราชา - ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาสระบาปเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านใน 13 หมู่บ้าน 2 ตำบล 1 อำเภอ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี
จากภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งวันวันนี้ (9 ก.ย.) ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาสระบาปเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นตำบลวังสรรพรส หมู่ที่ 1-9 จำนวน 150 ครัวเรือน โดยระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร ทำให้สวนผลไม้ของชาวบ้านได้รับเสียหายกว่า 30 ไร่ และชาวบ้านต้องเดินทางเข้าออกหมู่บ้านด้วยความยากลำบาก นอกจากนี้ ในพื้นที่หมู่ที่ 1-10 ของอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ยังเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอีกกว่า 50 หลังคาเรือน
ทำให้สวนผลไม้ของชาวบ้าน เช่น มังคุด ทุเรียน เงาะ ยางพารา ถูกน้ำท่วมจนได้รับความเสียหายเช่นกัน ขณะที่ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการสัญจรไป-มา ส่วนชาวบ้านที่เลี้ยงกบก็ต้องรีบจับกบในบ่อปูนก่อนกำหนด เพราะหวั่นว่าจะถูกน้ำท่วมบ่อเลี้ยง สำหรับการเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่จังหวัดจันทบุรีครั้งนี้มีสาเหตุ ทั้งนี้ มาจากลมมรสุมที่พัดผ่านพื้นที่จนเกิดฝนตกหนัก
เบื้องต้น นางรวิวรรณ ยังคำ หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี พร้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล และกำนัน ได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว ขณะที่ปริมาณน้ำในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะในพื้นที่ยังมีฝนตกต่อเนื่องและยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ด้าน นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้สั่งการให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี เตรียมพร้อมในการรับกับพายุลูกใหม่อย่างใกล้ชิดหลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนว่าในพื้นที่ภาคตะวันออกตั้งแต่วันที่ 9-12 กันยายน จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยจังหวัดให้ทุกหน่วยงาน เร่งติดตามปริมาณน้ำและปริมาณฝนอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ยังให้มีการประชาสัมพันธ์ไปยังชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ทางน้ำไหลให้ระมัดระวังกับปัญหาการเกิดน้ำท่วม รวมทั้งน้ำป่าไหลหลาก ส่วนความเสียหายล่าสุดขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย
จากภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งวันวันนี้ (9 ก.ย.) ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาสระบาปเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นตำบลวังสรรพรส หมู่ที่ 1-9 จำนวน 150 ครัวเรือน โดยระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร ทำให้สวนผลไม้ของชาวบ้านได้รับเสียหายกว่า 30 ไร่ และชาวบ้านต้องเดินทางเข้าออกหมู่บ้านด้วยความยากลำบาก นอกจากนี้ ในพื้นที่หมู่ที่ 1-10 ของอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ยังเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอีกกว่า 50 หลังคาเรือน
ทำให้สวนผลไม้ของชาวบ้าน เช่น มังคุด ทุเรียน เงาะ ยางพารา ถูกน้ำท่วมจนได้รับความเสียหายเช่นกัน ขณะที่ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการสัญจรไป-มา ส่วนชาวบ้านที่เลี้ยงกบก็ต้องรีบจับกบในบ่อปูนก่อนกำหนด เพราะหวั่นว่าจะถูกน้ำท่วมบ่อเลี้ยง สำหรับการเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่จังหวัดจันทบุรีครั้งนี้มีสาเหตุ ทั้งนี้ มาจากลมมรสุมที่พัดผ่านพื้นที่จนเกิดฝนตกหนัก
เบื้องต้น นางรวิวรรณ ยังคำ หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี พร้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล และกำนัน ได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว ขณะที่ปริมาณน้ำในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะในพื้นที่ยังมีฝนตกต่อเนื่องและยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ด้าน นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้สั่งการให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี เตรียมพร้อมในการรับกับพายุลูกใหม่อย่างใกล้ชิดหลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนว่าในพื้นที่ภาคตะวันออกตั้งแต่วันที่ 9-12 กันยายน จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยจังหวัดให้ทุกหน่วยงาน เร่งติดตามปริมาณน้ำและปริมาณฝนอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ยังให้มีการประชาสัมพันธ์ไปยังชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ทางน้ำไหลให้ระมัดระวังกับปัญหาการเกิดน้ำท่วม รวมทั้งน้ำป่าไหลหลาก ส่วนความเสียหายล่าสุดขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย